วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

วิเคราะห์ ปัพพชิตวิเหฐกชาดก กราบไหว้ผู้ควรกราบไหว้

วิเคราะห์ ปัพพชิตวิเหฐกชาดก ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

ปัพพชิตวิเหฐกชาดก เป็นชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก ฉักกนิบาตชาดก ขุรปุตตวรรค โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกราบไหว้ผู้ควรกราบไหว้และการปฏิบัติต่อบุคคลที่มีศีลาจารวัตรที่สมบูรณ์ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สาระสำคัญของชาดกนี้ในปริบทของพุทธสันติวิธี พร้อมทั้งพิจารณาการประยุกต์ใช้ในบริบทสังคมปัจจุบัน

สาระสำคัญของปัพพชิตวิเหฐกชาดก

ชาดกนี้เป็นบทสนทนาระหว่างพระเจ้าพรหมทัต ท้าวสักกะ และภิกษุที่เป็นพระขีณาสพ ซึ่งเป็นผู้หมดกิเลส บทสนทนานี้ชี้ให้เห็นถึงหลักธรรมสำคัญหลายประการ ได้แก่:

  1. การเคารพผู้ทรงศีล - การนอบน้อมต่อภิกษุที่มีศีลาจารวัตรบริสุทธิ์ ถือเป็นการกระทำที่นำมาซึ่งบุญกุศลและความเป็นสิริมงคลทั้งในปัจจุบันและอนาคต

  2. ผลของการปฏิบัติบูชา - ผู้ที่เคารพผู้ทรงศีล ย่อมได้รับความสรรเสริญในโลกนี้และมีโอกาสไปสู่สุคติภูมิหลังความตาย

  3. การตระหนักรู้ในกรรม - การเห็นคุณค่าของการกระทำทั้งกุศลและอกุศล เป็นสิ่งที่นำไปสู่ปัญญาและความเข้าใจในหลักแห่งกรรม

  4. ความสำคัญของการปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่าง - ท้าวสักกะทรงกระตุ้นให้พระเจ้าพรหมทัตประกอบบุญกุศล และกำจัดมานะอัตตา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสันติภายในจิตใจ

ปริบทของพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธี (Buddhist Peacebuilding) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการสร้างสันติสุขผ่านหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ชาดกนี้สามารถเชื่อมโยงกับหลักพุทธสันติวิธีได้ในหลายมิติ ได้แก่:

  1. สันติภายใน (Inner Peace) - การเคารพและนอบน้อมต่อผู้มีศีล เป็นการฝึกฝนจิตให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ลดทิฏฐิมานะ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสันติภายใน

  2. สันติในสังคม (Social Peace) - การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเคารพในผู้ทรงศีลและผู้มีคุณธรรม สามารถช่วยลดความขัดแย้งทางสังคมและส่งเสริมความปรองดอง

  3. การพัฒนาคุณธรรมในผู้นำ (Ethical Leadership) - พระเจ้าพรหมทัตได้รับคำแนะนำจากท้าวสักกะให้เป็นผู้นำที่มีเมตตาและกราบไหว้ผู้ควรไหว้ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของภาวะผู้นำเชิงพุทธ

  4. การสร้างแรงบันดาลใจในการปฏิบัติธรรม - คำสอนในชาดกนี้สามารถกระตุ้นให้บุคคลตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติธรรม และการทำบุญที่ถูกต้อง

การประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน

ปัพพชิตวิเหฐกชาดกมีบทเรียนที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันและการบริหารสังคม ได้แก่:

  1. การสร้างจิตสำนึกแห่งความเคารพ - ในสังคมที่มีความขัดแย้ง การฝึกฝนให้เคารพผู้ทรงคุณธรรมและผู้อาวุโส สามารถช่วยลดความตึงเครียดและเสริมสร้างความสามัคคี

  2. การส่งเสริมภาวะผู้นำที่มีคุณธรรม - ผู้นำที่ปฏิบัติตามหลักของท้าวสักกะและพระเจ้าพรหมทัต คือผู้นำที่มีเมตตา ปราศจากอคติ และให้ความสำคัญกับคุณธรรมมากกว่าตำแหน่งหรืออำนาจ

  3. การสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดี - การเผยแพร่เรื่องราวของชาดกนี้ สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนหันมาปฏิบัติบูชา และสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยคุณธรรม

  4. การใช้หลักกรรมในการดำเนินชีวิต - การตระหนักถึงผลแห่งกรรม ช่วยให้บุคคลเลือกทำสิ่งที่ดี และหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นอกุศล

บทสรุป

ปัพพชิตวิเหฐกชาดก เป็นชาดกที่มีคุณค่าทางพุทธปรัชญาและจริยธรรม สาระสำคัญของเรื่องนี้สามารถนำมาปรับใช้ในพุทธสันติวิธี ทั้งในด้านการพัฒนาสันติภายใน การเสริมสร้างสันติในสังคม และการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงคุณธรรม การนำหลักธรรมจากชาดกนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน จะช่วยส่งเสริมให้เกิดสังคมที่มีความเคารพและปรองดอง อันนำไปสู่ความสงบสุขที่แท้จริงทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคมโดยรวม

เอกสารอ้างอิง

  • พระไตรปิฎกฉบับบาลี-ไทย เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก

  • พุทธทาสภิกขุ. "พุทธสันติวิธี". ธรรมสภา, 2530

  • กรมศิลปากร. "ชาดก 500 ชาติ". สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์, 2560

วิเคราะห์  ปัพพชิตวิเหฐกชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก ฉักกนิบาตชาดก  ๒. ขุรปุตตวรรค  ที่ประกอบด้วย  

 ๖. ปัพพชิตวิเหฐกชาดก

ว่าด้วยกราบไหว้ผู้ควรกราบไหว้

             [๙๓๗] ท่านมีรูปงาม ประนมมือนอบน้อมสมณะผู้มีรูปร่างไม่น่าดูที่อยู่ข้างหน้า

                          สมณะนั้นประเสริฐกว่าท่าน หรือว่าเสมอกับท่าน ท่านจงบอกชื่อสมณะนั้น

                          และชื่อของตนแก่เรา.

             [๙๓๘] ข้าแต่พระราชา เทวดาทั้งหลาย ย่อมไม่ถือเอานามและโคตรของ

                          พระขีณาสพผู้พร้อมเพรียงกัน ผู้ปฏิบัติตรงๆ ก็แต่ว่า หม่อมฉันจะบอก

                          ชื่อของหม่อมฉันแก่พระองค์ หม่อมฉันเป็นท้าวสักกะจอมเทพชาว

                          ไตรทศทั้งหลาย.

             [๙๓๙] ข้าแต่เทวราช หม่อมฉันขอถามเนื้อความนี้กะพระองค์ ผู้ใด เห็นภิกษุ

                          ผู้ประกอบด้วยจรณะแล้วให้ท่านอยู่ข้างหน้า ประนมมือนอบน้อม

                          ผู้นั้นจุติจากมนุษยโลกนี้ไปแล้ว จะได้ความสุขอะไร?

             [๙๔๐] ผู้ใด เห็นภิกษุผู้ประกอบด้วยจรณะแล้วให้ท่านอยู่ข้างหน้า ประนมมือ

                          นอบน้อม ผู้นั้น ย่อมได้ความสรรเสริญในปัจจุบัน และเมื่อตายไปแล้ว

                          ย่อมไปสวรรค์.

             [๙๔๑] ปัญญารู้ผลแห่งกุศล และอกุศลเกิดขึ้นแก่หม่อมฉันในวันนี้ หม่อมฉัน

                          ได้เห็นท้าววาสวะผู้เป็นใหญ่กว่าหมู่สัตว์ ข้าแต่ท้าวสักกะ หม่อมฉันได้

                          เห็นภิกษุและพระองค์แล้ว จักกระทำบุญไม่น้อย.

             [๙๔๒] บุคคลเหล่าใด มีปัญญา เป็นพหูสูต สามารถคิดเหตุการณ์ได้มาก

                          บุคคลเหล่านั้น  ควรคบหาโดยแท้เทียว ข้าแต่พระราชา พระองค์ได้ทรง

                          เห็นภิกษุและหม่อมฉันแล้ว จงทรงกระทำบุญให้มากเถิด.

             [๙๔๓] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเทพ หม่อมฉันจักเป็นผู้ไม่โกรธ มีจิตเลื่อมใส

                          เป็นนิตย์ จักเป็นผู้ควรแก่การขอของแขกผู้มาทุกประเภท จักกำจัด

                          มานะเสีย แล้วกราบไหว้ท่านผู้ควรกราบไหว้ เพราะได้ฟังคำที่พระองค์

                          ตรัสดีแล้ว.


   

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ปัพพชิตวิเหฐกชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   ฉักกนิบาตชาดก

๒. ขุรปุตตวรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...