วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

คังคมาลชาดกกามทั้งหลายเกิดจากความดำริ

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ คังคมาลชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก  อัฏฐกนิบาตชาดก ๑.  กัจจานิวรรค     ที่ประกอบด้วย  

 ๕. คังคมาลชาดกกามทั้งหลายเกิดจากความดำริ

             [๑๑๕๕] แผ่นดินร้อนเหมือนถ่านไฟ ดาดาษไปด้วยทรายอันร้อนเหมือนเถ้ารึง

                          เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ขับเพลงอยู่ได้ แดดไม่เผาเจ้า

                          ดอกหรือ? เบื้องบนก็ร้อน เบื้องล่างก็ร้อน เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังทำ

                          เป็นทองไม่รู้ร้อน ขับเพลงอยู่ได้ แดดไม่เผาเจ้าดอกหรือ?

             [๑๑๕๖] ข้าแต่พระราชา แดดหาเผาข้าพระองค์ไม่ แต่ว่าวัตถุกาม และกิเลสกาม

                          ย่อมเผาข้าพระองค์ เพราะว่าความประสงค์หลายๆ อย่าง มีอยู่ ความ

                          ประสงค์เหล่านั้นย่อมเผาข้าพระองค์  แดดหาได้เผาข้าพระองค์ไม่.

             [๑๑๕๗] ดูกรกาม เราได้เห็นมูลรากของเจ้าแล้ว เจ้าเกิดจากความดำริ เราจักไม่

                          ดำริถึงเจ้าอีกละ เจ้าจักไม่เกิดด้วยอาการอย่างนี้.

             [๑๑๕๘] กามแม้น้อยก็ไม่พอแก่มหาชน มหาชนย่อมไม่อิ่มด้วยกามแม้มาก น่า

                          สลดใจที่พวกคนพาลพากันบ่นว่า รูป เสียง เหล่านี้จงมีแก่เรา กุลบุตร

                          ผู้ประกอบความเพียร พึงเว้นให้ขาดเถิด.

             [๑๑๕๙] การที่พระเจ้าอุทัยได้ถึงความเป็นใหญ่เป็นโตนี้ เป็นผลแห่งกรรมมี

                          ประมาณน้อยของเรา มาณพใดละกามราคะออกบวชแล้ว มาณพนั้นชื่อ

                          ว่าได้ลาภดีแล้ว.

             [๑๑๖๐] สัตว์ทั้งหลายย่อมละกรรมชั่วด้วยตบะ แต่สัตว์เหล่านั้น จะละความเป็น

                          คน เอาหม้อตักน้ำให้เขาอาบด้วยตบะได้หรือ แน่ะคังคมาละ การที่ท่าน

                          ข่มขี่ด้วยตบะ แล้วร้องเรียกโอรสของเราโดยชื่อว่าพรหมทัตต์วันนี้นั้น

                          ไม่เป็นการสมควรเลย.

             [๑๑๖๑] เสด็จแม่ เราทั้งหลายพร้อมทั้งพระราชา และอำมาตย์ พากันไหว้

                          พระปัจเจกพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น เป็นผู้อันชนทั้งปวงไหว้แล้ว

                          เชิญเสด็จแม่ ทอดพระเนตรดูผลแห่งขันติและโสรัจจะในปัจจุบันเถิด.

             [๑๑๖๒] ท่านทั้งหลายอย่าได้กล่าวอะไรๆ กะท่านคังคมาละผู้เป็นปัจเจกมุนี ศึกษา

                          อยู่ในคลองมุนี ความจริง พระปัจเจกมุนีคังคมาละนี้ ข้ามห้วงน้ำที่

                          พระปัจเจกมุนีทั้งหลายข้ามแล้ว หมดความเศร้าโศกเที่ยวไป.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ คังคมาลชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก    อัฏฐกนิบาตชาดก ๑.  กัจจานิวรรค 

วิเคราะห์คังคมาลชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ คังคมาลชาดก เป็นชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก กัจจานิวรรค ซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนถึงธรรมะที่เกี่ยวข้องกับกามคุณ ความเพียร และการสละกิเลสเพื่อเข้าถึงสัจธรรม บทความนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์สาระสำคัญของชาดกดังกล่าวในบริบทของพุทธสันติวิธี (Buddhist Peace Approach) รวมถึงการประยุกต์ใช้หลักธรรมที่ปรากฏในชาดกนี้เพื่อสร้างสันติสุขในระดับบุคคลและสังคม

สาระสำคัญของคังคมาลชาดก คังคมาลชาดกเล่าถึงชายผู้หนึ่งที่หลงใหลในกามคุณ แม้ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความร้อนของดินแดนที่แห้งแล้ง แต่เขากลับไม่รู้สึกร้อนเพราะจิตของเขาถูกเผาไหม้ด้วยความต้องการในกาม ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของชาดกนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของกิเลสที่ครอบงำจิตใจมนุษย์ และความสำคัญของการสละกิเลสเพื่อเข้าถึงสันติสุขที่แท้จริง

การประยุกต์ใช้หลักธรรมในพุทธสันติวิธี

  1. การละกิเลสเป็นแนวทางสู่สันติ
    ในชาดกนี้ คังคมาละตระหนักถึงโทษของกามและสละมันเพื่อเข้าถึงความสงบ หลักธรรมที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้คือ "วิราคะ" (ความคลายกำหนัด) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบรรลุสันติภายใน การปล่อยวางจากความโลภและตัณหาช่วยให้บุคคลพ้นจากความทุกข์ และสามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข

  2. ขันติและโสรัจจะ: คุณธรรมของการอดทนและความสงบเสงี่ยม
    พระราชาและอำมาตย์แสดงความเคารพต่อพระปัจเจกพุทธเจ้าคังคมาละ เนื่องจากท่านเป็นผู้มีขันติและโสรัจจะ (ความอดทนและความสงบเสงี่ยม) คุณธรรมสองประการนี้เป็นหลักสำคัญของพุทธสันติวิธี เพราะช่วยให้มนุษย์สามารถอดกลั้นต่อความทุกข์ และไม่ตอบโต้ความขัดแย้งด้วยความรุนแรง

  3. การเห็นโทษของกาม: หนทางสู่ความสงบสุข
    ชาดกแสดงให้เห็นว่าความต้องการในกามไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นรากเหง้าของความทุกข์ ดังนั้น การเห็นโทษของกาม (อาทีนวะ) และการสละละกิเลสจึงเป็นแนวทางที่นำไปสู่สันติสุขได้ หลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยการฝึกสติและปัญญา เพื่อให้สามารถพิจารณาถึงโทษของความยึดติดและหลุดพ้นจากมัน

ข้อสรุป คังคมาลชาดกนำเสนอหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างสันติสุขภายในตนเองและในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละกิเลส การฝึกขันติ และการพิจารณาโทษของกาม ในบริบทของพุทธสันติวิธี หลักธรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขความขัดแย้ง และส่งเสริมความสงบสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้หลักธรรมจากชาดกนี้ไม่เพียงช่วยให้บุคคลเข้าถึงสันติภายใน แต่ยังช่วยให้สังคมโดยรวมมีความสมานฉันท์และปราศจากความขัดแย้งอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...