ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ เรื่องวิเคราะห์ คังคมาลชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ๑. กัจจานิวรรค ที่ประกอบด้วย
๕. คังคมาลชาดกกามทั้งหลายเกิดจากความดำริ
[๑๑๕๕] แผ่นดินร้อนเหมือนถ่านไฟ ดาดาษไปด้วยทรายอันร้อนเหมือนเถ้ารึง
เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ขับเพลงอยู่ได้ แดดไม่เผาเจ้า
ดอกหรือ? เบื้องบนก็ร้อน เบื้องล่างก็ร้อน เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังทำ
เป็นทองไม่รู้ร้อน ขับเพลงอยู่ได้ แดดไม่เผาเจ้าดอกหรือ?
[๑๑๕๖] ข้าแต่พระราชา แดดหาเผาข้าพระองค์ไม่ แต่ว่าวัตถุกาม และกิเลสกาม
ย่อมเผาข้าพระองค์ เพราะว่าความประสงค์หลายๆ อย่าง มีอยู่ ความ
ประสงค์เหล่านั้นย่อมเผาข้าพระองค์ แดดหาได้เผาข้าพระองค์ไม่.
[๑๑๕๗] ดูกรกาม เราได้เห็นมูลรากของเจ้าแล้ว เจ้าเกิดจากความดำริ เราจักไม่
ดำริถึงเจ้าอีกละ เจ้าจักไม่เกิดด้วยอาการอย่างนี้.
[๑๑๕๘] กามแม้น้อยก็ไม่พอแก่มหาชน มหาชนย่อมไม่อิ่มด้วยกามแม้มาก น่า
สลดใจที่พวกคนพาลพากันบ่นว่า รูป เสียง เหล่านี้จงมีแก่เรา กุลบุตร
ผู้ประกอบความเพียร พึงเว้นให้ขาดเถิด.
[๑๑๕๙] การที่พระเจ้าอุทัยได้ถึงความเป็นใหญ่เป็นโตนี้ เป็นผลแห่งกรรมมี
ประมาณน้อยของเรา มาณพใดละกามราคะออกบวชแล้ว มาณพนั้นชื่อ
ว่าได้ลาภดีแล้ว.
[๑๑๖๐] สัตว์ทั้งหลายย่อมละกรรมชั่วด้วยตบะ แต่สัตว์เหล่านั้น จะละความเป็น
คน เอาหม้อตักน้ำให้เขาอาบด้วยตบะได้หรือ แน่ะคังคมาละ การที่ท่าน
ข่มขี่ด้วยตบะ แล้วร้องเรียกโอรสของเราโดยชื่อว่าพรหมทัตต์วันนี้นั้น
ไม่เป็นการสมควรเลย.
[๑๑๖๑] เสด็จแม่ เราทั้งหลายพร้อมทั้งพระราชา และอำมาตย์ พากันไหว้
พระปัจเจกพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น เป็นผู้อันชนทั้งปวงไหว้แล้ว
เชิญเสด็จแม่ ทอดพระเนตรดูผลแห่งขันติและโสรัจจะในปัจจุบันเถิด.
[๑๑๖๒] ท่านทั้งหลายอย่าได้กล่าวอะไรๆ กะท่านคังคมาละผู้เป็นปัจเจกมุนี ศึกษา
อยู่ในคลองมุนี ความจริง พระปัจเจกมุนีคังคมาละนี้ ข้ามห้วงน้ำที่
พระปัจเจกมุนีทั้งหลายข้ามแล้ว หมดความเศร้าโศกเที่ยวไป.
ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ คังคมาลชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ๑. กัจจานิวรรค
วิเคราะห์คังคมาลชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้
บทนำ คังคมาลชาดก เป็นชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก กัจจานิวรรค ซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนถึงธรรมะที่เกี่ยวข้องกับกามคุณ ความเพียร และการสละกิเลสเพื่อเข้าถึงสัจธรรม บทความนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์สาระสำคัญของชาดกดังกล่าวในบริบทของพุทธสันติวิธี (Buddhist Peace Approach) รวมถึงการประยุกต์ใช้หลักธรรมที่ปรากฏในชาดกนี้เพื่อสร้างสันติสุขในระดับบุคคลและสังคม
สาระสำคัญของคังคมาลชาดก คังคมาลชาดกเล่าถึงชายผู้หนึ่งที่หลงใหลในกามคุณ แม้ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความร้อนของดินแดนที่แห้งแล้ง แต่เขากลับไม่รู้สึกร้อนเพราะจิตของเขาถูกเผาไหม้ด้วยความต้องการในกาม ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของชาดกนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของกิเลสที่ครอบงำจิตใจมนุษย์ และความสำคัญของการสละกิเลสเพื่อเข้าถึงสันติสุขที่แท้จริง
การประยุกต์ใช้หลักธรรมในพุทธสันติวิธี
การละกิเลสเป็นแนวทางสู่สันติ
ในชาดกนี้ คังคมาละตระหนักถึงโทษของกามและสละมันเพื่อเข้าถึงความสงบ หลักธรรมที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้คือ "วิราคะ" (ความคลายกำหนัด) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบรรลุสันติภายใน การปล่อยวางจากความโลภและตัณหาช่วยให้บุคคลพ้นจากความทุกข์ และสามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบสุขขันติและโสรัจจะ: คุณธรรมของการอดทนและความสงบเสงี่ยม
พระราชาและอำมาตย์แสดงความเคารพต่อพระปัจเจกพุทธเจ้าคังคมาละ เนื่องจากท่านเป็นผู้มีขันติและโสรัจจะ (ความอดทนและความสงบเสงี่ยม) คุณธรรมสองประการนี้เป็นหลักสำคัญของพุทธสันติวิธี เพราะช่วยให้มนุษย์สามารถอดกลั้นต่อความทุกข์ และไม่ตอบโต้ความขัดแย้งด้วยความรุนแรงการเห็นโทษของกาม: หนทางสู่ความสงบสุข
ชาดกแสดงให้เห็นว่าความต้องการในกามไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นรากเหง้าของความทุกข์ ดังนั้น การเห็นโทษของกาม (อาทีนวะ) และการสละละกิเลสจึงเป็นแนวทางที่นำไปสู่สันติสุขได้ หลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยการฝึกสติและปัญญา เพื่อให้สามารถพิจารณาถึงโทษของความยึดติดและหลุดพ้นจากมัน
ข้อสรุป คังคมาลชาดกนำเสนอหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างสันติสุขภายในตนเองและในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละกิเลส การฝึกขันติ และการพิจารณาโทษของกาม ในบริบทของพุทธสันติวิธี หลักธรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขความขัดแย้ง และส่งเสริมความสงบสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้หลักธรรมจากชาดกนี้ไม่เพียงช่วยให้บุคคลเข้าถึงสันติภายใน แต่ยังช่วยให้สังคมโดยรวมมีความสมานฉันท์และปราศจากความขัดแย้งอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น