วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

ชาครชาดก ว่าด้วยผู้หลับและตื่น

     ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ ชาครชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค    ที่ประกอบด้วย  

 ๙. ชาครชาดก

ว่าด้วยผู้หลับและตื่น

             [๑๑๐๐] ในโลกนี้ ใครเป็นผู้หลับในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่ ใครเป็นผู้ตื่น

                          ในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่ ใครหนอรู้แจ้งปัญหาข้อนี้ ใครหนอจะ

                          แก้ปัญหาข้อนั้นของเราได้?

             [๑๑๐๑] ข้าพเจ้าเป็นผู้หลับในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่ ข้าพเจ้าเป็นผู้ตื่นใน

                          ระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่ ข้าพเจ้ารู้แจ้งปัญหาข้อนั้นของท่าน จะ

                          แก้ปัญหาข้อนั้นของท่านได้.

             [๑๑๐๒] ท่านเป็นผู้หลับในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่อย่างไร ท่านเป็นผู้ตื่นใน

                          ระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่อย่างไร ท่านรู้แจ้งปัญหาข้อนี้อย่างไร

                          ท่านจะแก้ปัญหาข้อนี้ของข้าพเจ้าอย่างไร?

             [๑๑๐๓] ดูกรเทวดา ข้าพเจ้าตื่นอยู่ในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่ด้วยความ

                          ประมาท ไม่รู้ทั่วถึงธรรม ๒ ประการ คือ สัญญมะ ๑ ทมะ ๑.

             [๑๑๐๔] ดูกรเทวดา ข้าพเจ้าหลับอยู่ในระหว่างพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้สละราคะ

                          โทสะ และอวิชชา ตื่นอยู่.

             [๑๑๐๕] ข้าพเจ้าเป็นผู้หลับในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่อย่างนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้

                          ตื่นในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่อย่างนี้ ข้าพเจ้ารู้แจ้งปัญหาข้อนี้

                          อย่างนี้ ข้าพเจ้าแก้ปัญหาของท่านอย่างนี้.

             [๑๑๐๖] ถูกแล้ว ท่านเป็นผู้หลับในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่ เป็นผู้ตื่นอยู่ใน

                          ระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้หลับอยู่ ท่านรู้แจ้งปัญหาข้อนั้นของข้าพเจ้าถูก

                          แล้ว ท่านแก้ปัญหาข้อนั้นของข้าพเจ้าดีแล้ว.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ชาครชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๒. คันธารวรรค

วิเคราะห์ ชาครชาดก ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ ชาครชาดก (ชาดกว่าด้วยผู้หลับและตื่น) เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกายชาดก สัตตกนิบาตชาดก คันธารวรรค เรื่องนี้มีเนื้อหาว่าด้วยการเปรียบเทียบสภาวะของผู้มีปัญญาและผู้มีโมหะผ่านอุปมาเกี่ยวกับการหลับและการตื่น โดยสื่อถึงสภาพของบุคคลในทางธรรมว่าผู้ที่ยังติดอยู่ในกิเลสเป็นผู้หลับ ส่วนผู้ที่เข้าใจสัจธรรมเป็นผู้ตื่น บทความนี้จะวิเคราะห์ชาครชาดกในบริบทของพุทธสันติวิธี พร้อมทั้งนำเสนอหลักธรรมสำคัญและแนวทางการประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน

1. การวิเคราะห์สาระสำคัญของชาครชาดก

ชาครชาดกนำเสนอผ่านบทสนทนาระหว่างบุคคลผู้หนึ่งกับเทวดา ซึ่งตั้งคำถามถึงความหมายของการเป็น "ผู้หลับ" และ "ผู้ตื่น" ในโลกนี้ คำตอบที่ได้รับแสดงให้เห็นถึงมุมมองของพระอริยบุคคลต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ที่ยังคงเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร

1.1 ความหมายของ "ผู้หลับ" และ "ผู้ตื่น"

  • "ผู้หลับ" ในที่นี้หมายถึงผู้ที่ใช้ชีวิตไปโดยไม่ตระหนักถึงสัจธรรมแห่งชีวิต ยังคงถูกครอบงำโดยกิเลส ความโลภ โกรธ และหลง

  • "ผู้ตื่น" หมายถึงบุคคลที่มีสติ รู้เท่าทันกิเลส และปฏิบัติตามหลักธรรมะเพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์

  • สภาวะการ "ตื่น" และ "หลับ" จึงมิได้หมายถึงสภาพร่างกาย แต่เป็นสภาวะทางจิตใจที่มีหรือไม่มีปัญญารู้แจ้งในสัจธรรม

1.2 ธรรม 2 ประการ: สัญญมะและทมะ

  • สัญญมะ (การสำรวม) หมายถึงการควบคุมกาย วาจา และใจให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง

  • ทมะ (การฝึกตน) หมายถึงการพัฒนาตนเองให้สูงขึ้นโดยการละกิเลส

  • ผู้ที่ไม่เข้าใจธรรม 2 ประการนี้ถือเป็น "ผู้หลับ" ในขณะที่ผู้ปฏิบัติตามถือเป็น "ผู้ตื่น"

2. บริบทของพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธีหมายถึงแนวทางการสร้างสันติภาพและความสงบสุขตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับแนวคิดเรื่องการ "ตื่น" ในชาครชาดก เพราะการตื่นขึ้นในทางธรรมคือการพัฒนาจิตใจให้อยู่เหนือความขัดแย้งและความวุ่นวาย

2.1 ความสัมพันธ์ของชาครชาดกกับพุทธสันติวิธี

  • การตื่นในทางธรรมทำให้บุคคลพ้นจากความเห็นผิด ความขัดแย้ง และการยึดติด ซึ่งเป็นรากฐานของสันติภาพภายใน

  • เมื่อแต่ละบุคคลสามารถควบคุมตนเองและเข้าใจสัจธรรมได้แล้ว สังคมก็จะมีความสงบสุข

  • พุทธสันติวิธีจึงเริ่มจากปัจเจกบุคคล โดยการฝึกฝนตนเองให้เป็น "ผู้ตื่น" ก่อนที่จะสามารถเผยแผ่สันติภาพไปยังสังคมโดยรวม

3. การประยุกต์ใช้ชาครชาดกในชีวิตปัจจุบัน

3.1 การนำหลักธรรมสู่ชีวิตประจำวัน

  • การฝึกสติให้ตื่นรู้ต่ออารมณ์และความคิดของตนเอง

  • การมีเมตตาและความเข้าใจผู้อื่นเพื่อลดความขัดแย้ง

  • การดำเนินชีวิตอย่างมีศีลธรรมเพื่อนำไปสู่สันติสุขในตนเองและสังคม

3.2 การนำไปใช้ในระดับสังคม

  • การศึกษาและเผยแพร่หลักธรรมให้แก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจและความสามัคคี

  • การใช้หลักสัญญมะและทมะในการบริหารงานและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในองค์กรและชุมชน

สรุป

ชาครชาดกเป็นตัวอย่างที่ดีของแนวคิดเรื่องการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างสันติภาพภายในและภายนอก การเป็น "ผู้ตื่น" ในทางธรรมหมายถึงการเข้าใจสัจธรรม ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา และละทิ้งกิเลส ซึ่งนำไปสู่ความสงบสุขของปัจเจกบุคคลและสังคมโดยรวม แนวทางดังกล่าวสามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคล ครอบครัว หรือสังคมโดยรวม เพื่อก่อให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงในโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...