วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 พระกฎษดา ขนฺติกโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดห้วยยอด ประธานดำเนินงานชมรมชายผ้าเหลือง "เพื่อเพื่อนผู้ป่วยระยะท้าย" วัดห้วยยอด จ.ตรัง เปิดเผยว่า ได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ ในงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดตรัง ณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง โดยระบุว่า
อาตมภาพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงาน สมัชชาสุขภาพจังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 รวมทั้งได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของคณะของกลุ่มคนทำงานในการเยียวยาผู้ป่วยระยะท้าย โดยมีแกนหลังในการทำงานเป็นคณะสงฆ์ ในวันนี้
บทบาทพระสงฆ์กับการเยียวยาผู้ป่วย หรือที่หลายท่านรู้จักกันในนามของ สังฆะแห่งการเยียวยาผู้ป่วย วิถีพุทธ ขบวนการพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้น ดังกล่าวนั้น เพื่อตอบสนองปัญหาสังคมในปัจจุบัน หมายถึง ทัศนะที่ว่า, พระพุทธศาสนากับสังคมต้องผูกพัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีการแยกเรื่องศาสนา,กับสังคมออกจากกัน
ท่านทั้งหลาย. มีคำกล่าวที่ว่า..การสละชีวิตเพื่อสังคมด้วยเมตตาธรรม ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูงสุด ในขบวนกการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายวิถีพุทธ ในบริบทของสังคมไทย ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยควรจะได้รับการเยียวยาทั้งทางกาย จิต จิตวิญญาณ(ความเชื่อ) และสังคม ด้วยพลังแห่งความเมตตาจากเหล่าจิตอาสาที่หมุนเวียนมาให้กำลังใจและให้การเยียวยา ต้องเป็นอิสระและเปิดกว้าง, โดยถือความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยเป็นหลัก
บริบทของ การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของไทยนั้น ต้องกล่าวว่า..วิทยาศาสตร์กับศาสนาควรจะเดินไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและเป็นหนึ่งเดียวกัน วิสัยทัศน์ของชมรม "ชายผ้าเหลือง" คือการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง ด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ ด้วยพระสงฆ์และจิตอาสา โดยเฉพาะพลังของจิตอาสาในการทำงานด้วยกรุณาธรรม
"ปัจจุบัน เรามีจิตอาสาจากที่ต่างๆ ทั้งแพทย์ พยาบาล ญาติผู้ป่วย และสหสาขาวิชาชีพ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ เข้ามาดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง นี่คือน้ำใจของจิตอาสา ที่ชมรมอยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมากเท่าที่จะมากได้ โดยไม่ต้องใช้การบังคับ แต่มาจากหัวใจ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดห้วยยอด ระบุและว่า
ใน อรกานุสาสนีสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระพุทธองค์ ตรัสว่า ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายน้อยนักนิดหน่อย รวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก จะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญาควรกระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายนั้นไม่มี
ดังนั้น ชมรม “ชายผ้าเหลือง” จึงเกิดขึ้น ด้วยสำนึกในการรับใช้ธรรมะ ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์
พระพุทธองค์ได้ทรงมุ่งเน้นให้มนุษย์พึ่งพาอาศัยกันในการดำรงชีพด้วดการมีเมตตาต่อกัน ดังนั้นท่านทั้งหลาย..เมื่อในสังคมในชุมชนของเรายังมีบุคคลซึ่งยังขาดการดูแลเอาใจใส่และช่วยเหลือแล้ว เราในฐานะเพื่อน ผู้มีความเกิด,ความแก่,ความเจ็บ,และความตาย เป็นสิ่งธรรมดาของชีวิตร่วมกันทุกชีวิต จึงควรที่เราทุกๆคน จะร่วมมือกันอย่างเต็มกำลังความสามาถเพื่อเข้าช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วย
ด้วยเหตุนี้ เรา (คณะจิตอาสาเยียวยาผู้ป่วย..ขับเคลื่อนโดยชมรมชายผ้าเหลือง เพื่อเพื่อนผู้ป่วยระยะท้าย วัดห้วยยอด จ.ตรัง) จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการมีองค์กรประสานงาน ในภาคประชาชนสำหรับการเคลื่อนไหวผลักดันให้มีการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง..
แนวทางการดำเนินงาน เข้าเยี่ยมผู้ป่วยทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน ทั้งผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยผู้ใหญ่ โดยเน้นการไป รับรู้ เข้าใจ และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยรวมถึงครอบครัวผู้ป่วยผ่านกิจกรรม การพูดคุย โดยนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาประยุคต์ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตและความตาย เพื่อให้ผู้ป่วยใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตอย่างสมศรักศรีแห่งความเป็นมนุษย์ หรือพร้อมที่จะจากไปอย่างสงบ.
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกท่านรวมกันเป็นส่วนหนึ่งในการประคับประครองสังคมให้เกิดความสงบ,เย็น,แก่กันและกัน ด้วยการเป็นผู้ให้ คือให้การเยียวยาสังคมอย่างเป็นองค์รวม เพราะสิ่งที่สังคมต้องมี..ในตอนนี้..คือ มี "เมตตาที่แท้จริง" คือ..ไม่มีขอบเขต ไม่เลือกผู้รับ..ไม่เลือกของเราของเขา..ไม่เลือกชาติ ศาสนา..และไม่เลือกมิตรศัตรู..
ฉะนั้นท่านทั้งหลาย..ได้กรุณามีใจเมตตา
อย่ามองกันแต่ว่าเป็นเรื่องของการทำบุญ
แต่ขอให้มองว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์พึงกระทำต่อกัน
เพราะนี้เป็นกุศลกรรมอย่างยิ่งที่มนุษย์พึงกระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน
สุดท้ายท่านทั้งหลาย โลกของเราเป็นชุมชนแห่งสันติและความกรุณา..ได้
ในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก เราจะได้รับการแปรเปลี่ยนและเยียวยาที่จำเป็น เพื่อนไปแปรเปลี่ยนและเยียวยาโลก และเมื่อเราออกเดิน จงอย่าเดินเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่จงเดินเพื่อบรรพบุรุษและชุมชนของเรา ในชุมชนที่กว้างใหญ่ถ้าเรารู้วิธีที่จะทำเช่นนี้ สักวันหนึ่ง เราก็จะแปรเปลี่ยนตนเองได้และก็จะแปรเปลี่ยนชุมชนในที่สุด จงเป็นดั่งแม่น้ำที่ไหลล่องสู่มหาสมุทร เป็นดั่งผึ้งและนกที่บินกันเป็นฝูง จงเห็นตนเองในชุมชนและเห็นชุมชนในตนเอง
ขอทุกท่านจงร่วมกันขันเคลื่องชุมชนแห่การเยียวยาด้วยการสร้างเสริมพลังแห่งความกรุณา เพราะความกรุณาจะเยียวยาทุกชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น