วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ดร.หญิงหน่อยชูหมู่บ้าน!แนวปฏิรูปปชต.ฐานรากสู่ประเทศ



ดร.หญิงหน่อยรำลึก!ดุษฎีนิพนธ์ป.เอก 'พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยปัจจุบัน" ชูหมู่บ้านแนวปฏิรูปประชาธิปไตยจากชุมชนฐานรากสู่ประเทศ 


วันที่ 18  พ.ย.นี้ เพจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ได้โพสต์ข้อความว่า วันนี้(17พ.ย.) ช่วงบ่าย ดิฉันได้มีโอกาสร่วมเวทีถกแถลงวิชาการ “ปฏิรูปประชาธิปไตยจากชุมชนฐานรากสู่ประเทศ” จัดโดย สถาบันสิทธิมุนษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และ สถาบันสร้างอนาคตไทย ในเวทีนี้ได้พบและได้ฟังความเห็นจากนักวิชาการ-นักการเมืองอีกหลายท่าน

เวทีนี้ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสกลับไปทบทวนและนำเสนอ ถึงดุษฎีนิพนธ์ปริญญาเอกของตัวเองอีกครั้ง ในหัวข้อ “พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยปัจจุบัน”(จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย)  โดยดิฉันได้นำเสนอการ’สร้างประชาธิปไตยจากฐานราก’เพื่อสร้างการพัฒนาประชาธิปไตยของบ้านเรา

โดยในดุษฎีนิพนธ์ ดิฉันได้น้อมนำแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2517 ที่ได้พระราชทานให้นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนหนึ่งว่า “ประชาธิปไตยขั้นหมู่บ้านนี้เรากำลังอยากที่จะทำลาย เพราะอยากทำประชาธิปไตยขั้นประเทศ แต่ว่าประชาธิปไตยขั้นประเทศนั้น ก็ต้องมีรากฐานที่ประชาธิปไตยขั้นหมู่บ้าน” มาเป็นหลัก

ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่พบเห็นจากเส้นทาง 86 ปีของประชาธิปไตย คือการแย่งชิงอำนาจระหว่าง ตัวแทนประชาชนกับ รัฐราชการที่นำโดยทหาร เข้ามาเตะสะกัดความต่อเนื่องของประชาธิปไตยด้วยข้ออ้างความไม่สงบ และความั่นคง หรือด้วยวาทกรรม “นักการเมืองเลว นักการเมืองโกง” ไปจนถึง “ประเทศวุ่นวาย จึงจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยด่วน”

แต่การรัฐประหาร นอกจากจะสกัดกั้นการพัฒนาประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นการตัด’โอกาส’ของประชาชนอีกด้วย

ในชีวิตของดิฉัน เดินสายพบปะประชาชนเพื่อเชิญชวนมาสมัครสมาชิกพรรคการเมือง และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งใดที่จะได้ฟังเสียงบ่นของประชาชนมากเท่าหลังการรัฐประหารครั้งนี้ เสียงของประชาชนบอกเล่าถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงโอกาส และความก้าวหน้าของชีวิตที่หายไป พี่น้องหลายคนเดินเข้ามากอดและบอกดิฉันว่า “ไม่ไหวแล้ว กลับมาช่วยกันไวไว”

เดิมพันครั้งนี้สูงมาก เพราะความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้น โอกาสของประชาชนที่หายไป จากการที่ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำมาหากินของคนไทยส่วนใหญ่

วันนี้ดิฉันหยิบข้อเสนอจากดุษฎีนิพนธ์มาย้ำในเวทีนี้อีกครั้ง ข้อเสนอนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ บนความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เราจึงควรกระจายโอกาสไปสู่มือประชาชนให้ได้มากที่สุด

สิ่งที่เราจึงต้องเร่งทำคือ เปลี่ยนจากการยึดภาครัฐเป็นศูนย์กลางเพื่อรองรับการแก้ปัญหาต่างๆ มาเป็นการเสริมสร้างพลังและกระจายอำนาจให้แต่ละหมู่บ้านชุมชนแก้ไขปัญหาของตนเองให้ได้มากที่สุด

ดิฉันจึงเห็นร่วมกับ ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่นำเสนอวันนี้ว่า มาร่วมกัน“สร้างประชาธิปไตยขั้นหมู่บ้าน เพื่อรองรับประชาธิปไตยขั้นประเทศ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รวม 4 สุดยอดเหรียญเจ้าสัวมนต์นาคราช หลวงปู่คีบ ธีรปัญโญ วัดป่าสุทธาวาส จ.นครพนม อายุ109 ปี

เหรียญเจ้าสัวมนต์นาคราช  หลวงปู่คีบ ธีรปัญโญ วัดป่าสุทธาวาส อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม อายุ 109 ปี รวมความเป็นสุดยอดดังนี้ สุดยอดพุทธศิลป์ สุดยอดม...