'ญาติ-เพื่อน'ตายไม่้ต้องเสียใจอีกต่อไปแล้ว AIช่วยพื้นชีพขึ้นมาได้ : สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน
เป็นธรรมดาของมนุษย์เมื่อญาติ เพื่อน คนรู้จักเสียชีวิต ยอมจะเกิดทุกขเวทนาเสียใจอาลัยอาวรณ์ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงมีวิธีคลายทุกข์ด้วยการพิจารณาอยู่เนืองๆ เป็นประจำทุกๆวันซึ่งเรียกว่า "อภิณหปัจจเวกขณ์"
1. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ 2. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้
3. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ 4. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
5. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตัว เราทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว
แต่ด้วยวิวัฒนการแห่งเทคโนโลยีที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (Artificial Intelligence=AI) คือหุ่นยนต์ที่เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีประสาทสัมผัสชั้นจิตหรือวิญญาณสามารถรับรู้อารมณ์เหมือนกับมนุษย์แล้ว โดยมีปัญญา 3 เหมือนมนุษย์ เท่ากับว่าวัตถุได้พัฒนามาเทียบจิตหรือขอบข่ายแห่งศาสนาแล้ว
ล่าสุดนักวิศวกร AI ทำโปรเจ็กต์การ ‘คืนชีพ’ คนตายขึ้นมาในแบบ chatbot ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Replika’ ซึ่งตอนนี้เป็นแอพฯ ที่ทำงานผ่านความสามารถของ AI ในตอนนี้มีผู้คนที่ใช้งานนี้ราวๆ 200,000 คนต่อปี ทั้งนี้ รูปแบบการทำงานของ chatbot คือการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลหนึ่งขึ้นมา โดยผู้ใช้แอพฯ จะต้องป้อนข้อมูลเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อให้ AI ได้ประกอบสร้างตัวตนขึ้นมา
อย่างไรก็ดี โปรเจ็กต์การสร้างตัวตนของคนตายขึ้นมาใหม่ในโลกดิจิทัล ก็ยังมีประเด็นที่ต้องถกเถียงกันอีกมาก ทั้งในแง่ของจริยธรรม ตลอดจนคำถามถึงความแม่นยำของอัลกอริทึม ว่ามันจะสร้างตัวตนขึ้นมาได้เที่ยงตรงกับคนจริงๆ มากน้อยแค่ไหน และผลกระทบของมัน จะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้ใช้งานกับโลกในความเป็นจริงเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
ก่อนหน้านี้ก็มีการรายงานว่า นักวิจัย AI กำลังพัฒนาเทคโนโลยี ‘Augmented Eternity’ หวังช่วยให้เราได้คุยกับคนตาย ที่มีตัวตนอยู่ในโลกดิจิทัล"
โดยมีการเผยแพร่ผ่านทางบทความของ MIT Techonlogy Review ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ระบุถึงความพยายามของนักวิจัย Hossein Rahnama ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก MIT Media Lab และ Ryerson University ที่กำลังพัฒนาโครงการชื่อว่า ‘Augmented Eternity’ ขึ้นมา
โครงการนี้มีคอนเซ็ปต์หลักๆ คือ นำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลทั้งบุคลคิก ลักษณะนิสัย วิธีการใช้คำพูด ถ้อยคำ การใช้ภาษา รวมถึงจุดยืนในแต่เรื่องของชีวิตมารวมกันเป็น database แล้วให้ AI และ Machine learning วิเคราะห์ออกมาเพื่อสร้างบุคคลนั้นเป็นตัวตนดิจิทัล ซึ่งสามารถสื่อสารกับผู้คนได้อย่างใกล้เคียงกับตอนที่ยังมีชีวิต
จากข้อมูลดังกล่าวเท่ากับว่า นักวิจัย AI สามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้สำเร็จ เทคโนโลยี AI ความสามารถเหมือนกับพระวังคีสเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีปฏิภาณ ในครั้งพุทธกาลแล้ว
Cr.The MATTER
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น