วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ยังพร่ามัว!กึ๋นนักเลือกตั้ง นโยบายเทคโนโลยีเอไอ


 จากการเปิดผลสำรวจความเห็นของซีอีโอทั่วโลกประจำปี 2562 (PwC”s 22nd Annual Global CEO Survey) จากการเปิดเผยของ “ศิระ อินทรกำธรชัย” ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย (“STEM” ทักษะมนุษย์ยุคดิจิทัล ซีอีโออาเซียนหวังใช้ AI พลิกธุรกิจ-เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ-February 28, 2019-https://www.prachachat.net/ict/news-295758) ความว่า   ซีอีโออาเซียน 87% มองว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ “AI” จะเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญในอีก 5 ปี ทั้ง 51% เชื่อว่า AI จะฉลาดเหมือนมนุษย์ 62% เชื่อว่าจะเข้ามาแทนที่งานมากกว่าสร้างงาน 73% เชื่อว่า AI จะส่งผลดีต่อสังคม และ 90% มีความไว้วางใจในการใช้งาน
          
แต่ธุรกิจอาเซียนกว่า 36% ยังไม่มีการนำ AI เข้ามาใช้ 32% มีแผนจะนำมาใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า 28% ได้นำมาใช้งานบางส่วนแล้ว มีเพียง 1% ที่ใช้งานอย่างกว้างขวางภายในองค์กร และ 3% ที่ใช้ AI เป็นพื้นฐานการทำงาน

“ทักษะแรงงาน” เป็นอุปสรรคในการนำ AI มาใช้ ซึ่งจากผลสำรวจซีอีโออาเซียนพบว่า 58% ไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 55% มองว่าค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรสูงเกินกว่าที่คาด 55% กระทบต่อคุณภาพมาตรฐานและประสบการณ์ของลูกค้า 58% หมดโอกาสในการแสวงหาตลาดใหม่ ๆ และ 48% ไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้า
          
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปิดช่องว่างทางทักษะคือการเพิ่มพูนและเทรนทักษะใหม่ (upskill/reskill) แก่แรงงาน โดยซีอีโออาเซียน 42% เห็นว่าต้องอบรมทักษะเดิมและเพิ่มพูนทักษะใหม่ 22% แย่งตัวจากคู่แข่ง 9% เป็นการสรรหาจากนอกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประกอบธุรกิจอยู่ 5% ผสมผสานการจ้างงานแบบถาวรกับชั่วคราว และ 22% สรรหาจากสถาบันการศึกษาโดยตรงที่มีหลักสูตรรองรับทักษะแรงงานที่จำเป็นในยุคดิจิทัลมีทั้งหมด 5 ด้านได้แก่ การสร้างสรรค์, การปรับตัว, เอไอ, การวิเคราะห์ และ คลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งทักษะพื้นฐานของแรงงานยุคดิจิทัลมาจาก “STEM” ความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (science) เทคโนโลยี (technology) วิศวกรรม (engineering) และคณิตศาสตร์ (mathematics) ซึ่งทักษะ STEM ซีอีโอไทย 81% มีความต้องการให้ภาครัฐสร้างแรงงานที่มีทักษะด้านนี้ออกสู่ตลาดดิจิทัลมากขึ้น
          
“3 กุญแจสำคัญในการจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จคือ 1.พัฒนาทักษะแรงงานที่มีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต 2.ใช้ประโยชน์เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของคนและสังคม และ 3.เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่าผลประกอบการทางการเงินเพียงอย่างเดียว”


แต่จากการโชว์กึ๋นของนักเลือกตั้งในเวทีเสวนาจิบน้ำชา หัวข้อ เปิดวิสัยทัศน์ “Digital Economy” ชูแนวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยุคใหม่จัดโดย ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITPC)สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีตัวแทนจากพรรคการเมืองไทย ร่วมเสนอวิสัยทัศน์ และนโยบาย ในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศ (พรรคการเมืองประกาศยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลในไทย-เว็บไซต์ไทยโพสต์ March 01, 2019-https://www.thaipost.net/main/detail/30222) 

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ระบุถึงคนต้องมีความสมาร์ท  (Smart People)สามารถรู้เท่าทันเทคโนโลยี และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์  
          
นายจุติ ไกรฤกธิ์ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงโครงการศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน นายไกลก้อง ไวทยากร พรรคอนาคตใหม่ ระบุถึง สตาร์ทอัพ  AI  และหุ่นยนต์ การพัฒนา digital singles market   5G ขณะที่นายฤภพ ชินวัตร พรรคไทยรักษาชาติ มุ่งที่จะแก้กฎหมายดิจิทัล ทำแอพพลิเคชันและบริการที่ยกระดับเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้จริงๆ  
          
นายณัฐพงษ์ รอบคอบ พรรคท้องถิ่นไทย  ระถึงความไม่เป็นเอกภาพในการใช้งานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน  บูรณาการระบบการทำธุรกรรมให้มีเอกภาพ ยุบแอพพลิเคชันภาครัฐทั้งหมดให้เป็นแอพพลิเคชันเดียว หรือ ไทยแลนด์แอพพลิเคชัน ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้ไปถึงระดับโลก ใช้งานศูนย์ไอซีทีชุมชนให้เป็นศูนย์โอท็อปและฝึกอาชีพ และบูรณาการ

จากการแสดงความคิดเห็นของนักเลือกตั้งจากพรรคต่างๆ ยังไม่ได้แสดงแผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI อย่างชัดเจนเป็นองค์รวม จึงมีลักษณะของการแยกส่วน พร้อมกันนี้ยังไม่มีการพูดถึงว่าจะเอาอะไรมากำกับ ควบคุม AI นั้นแสดงว่านักเลือกตั้งมองในมุมของการพัฒนาวัตถุ เห็นมีแต่เพียงพรรคแผ่นดินธรรมเท่านั้นที่มีสโลแกน"ศีลธรรม นำชาติ" นั้นก็คือ มีเครื่องมือที่จะกำกับคนที่พัฒนา AI โดยเฉพาะอย่่างยิ่งตัวสติ 











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แนะนำหนังสือนิยายอิงธรรมะ: มนต์รักจีพีที

  เนื้อหาหนังสือนิยายอิงธรรมะ: มนต์รักจีพีที บทนำ ฉากเปิด : สันติเดินทางกลับบ้านเกิดในชนบท หลังผิดหวังจากชีวิตในเมืองใหญ่และความรักที่ไม่สมห...