วิเคราะห์ มหาอัสสาโรหชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก จตุกกนิบาตชาดก ๑. กาลิงควรรค
บทนำ
มหาอัสสาโรหชาดก ซึ่งปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก จตุกกนิบาตชาดก กาลิงควรรค มีเนื้อหาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมคุณธรรมในด้านการให้ทานอย่างมีปัญญาและการสร้างมิตรภาพที่แท้จริง ด้วยหลักธรรมคำสอนที่เป็นแก่นสารของพระพุทธศาสนา เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงผลแห่งการกระทำในอดีตที่ส่งผลต่อชีวิตในปัจจุบัน และเชื่อมโยงไปสู่หลักพุทธสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและสร้างความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน
การวิเคราะห์สาระสำคัญของมหาอัสสาโรหชาดก
มหาอัสสาโรหชาดกเป็นเรื่องที่สะท้อนถึงหลักธรรมในเรื่อง "การให้ทาน" และ "การสร้างความสัมพันธ์อันดี" ซึ่งในชาดกนี้มีคาถาสำคัญที่ชี้แนะการปฏิบัติ ดังนี้:
การให้ทานอย่างเหมาะสม
คาถา: "ผู้ใด ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ไม่ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้น ถึงจะได้รับความทุกข์ในคราวมีอันตราย ก็ไม่ได้สหาย"
การให้ทานควรพิจารณาความเหมาะสมของผู้รับ หากให้ทานแก่ผู้ที่ไม่เหมาะสม ผลของการกระทำย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาว ความสำคัญของการให้ทานคือการส่งเสริมคุณธรรมของผู้รับให้เจริญยิ่งขึ้น
การสร้างมิตรภาพในอารยชน
คาถา: "การแสดงคุณวิเศษแห่งความเกี่ยวพัน และความสนิทสนมกันฉันท์มิตรในชนทั้งหลายผู้ไม่มีอารยธรรม เป็นคนมักอวด ย่อมไร้ผล การแสดงคุณวิเศษในอารยชนผู้ซื่อตรง คงที่ แม้เล็กน้อย ก็ย่อมมีผลมาก"
ความสัมพันธ์ที่แท้จริงควรเกิดขึ้นในหมู่คนที่มีคุณธรรม การสร้างมิตรภาพในบุคคลที่มีจิตใจดีงาม ย่อมก่อให้เกิดผลดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ผลแห่งการทำความดีในอดีต
คาถา: "ผู้ใดได้ทำความดีงามไว้แต่กาลก่อนแล้ว ผู้นั้นชื่อว่าได้ทำกิจที่ทำได้แสนยากในโลก ภายหลัง เขาจะทำก็ตาม ชื่อว่าเป็นบุคคลผู้ควรบูชายิ่งนัก"
การกระทำความดีในอดีตเปรียบเสมือนการสะสมต้นทุนทางจริยธรรมที่ส่งผลต่อชีวิตในปัจจุบัน ผู้ที่มีความเพียรพยายามทำความดีมาโดยตลอด ย่อมเป็นที่เคารพบูชาของผู้อื่น
พุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้
มหาอัสสาโรหชาดกสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทของพุทธสันติวิธี ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและสร้างความสงบสุขในสังคม ดังนี้:
การแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการให้ทานและความเอื้อเฟื้อ
การให้ทานที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้อื่น แต่ยังส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน การเลือกให้ทานแก่ผู้ที่สมควรได้รับช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือในสังคม
การส่งเสริมมิตรภาพในสังคมที่มีคุณธรรม
การคบหาสมาคมกับผู้ที่มีคุณธรรมจะช่วยสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสงบสุข การส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความซื่อตรงและการเคารพซึ่งกันและกันเป็นปัจจัยสำคัญของพุทธสันติวิธี
การสร้างต้นทุนทางจริยธรรม
การปลูกฝังคุณธรรมและความดีในอดีตเป็นรากฐานของการสร้างความสงบสุขในปัจจุบันและอนาคต การกระทำความดีอย่างสม่ำเสมอจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
สรุป
มหาอัสสาโรหชาดกเป็นชาดกที่เน้นถึงความสำคัญของการทำความดี การให้ทานอย่างมีปัญญา และการสร้างมิตรภาพในหมู่คนดีงาม หลักธรรมเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพุทธสันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับบุคคลและสังคม การสร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืนจึงขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้ด้วยความตั้งใจและสม่ำเสมอ. เรื่อง วิเคราะห์ มหาอัสสาโรหชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก จตุกกนิบาตชาดก ๑. กาลิงควรรค ที่ประกอบด้วย
๒. มหาอัสสาโรหชาดก
ว่าด้วยการทำความดีไว้ในปางก่อน
[๕๐๖] ผู้ใด ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ไม่ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้น ถึงจะได้
รับความทุกข์ในคราวมีอันตราย ก็ไม่ได้สหาย.
[๕๐๗] ผู้ใด ไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้น ถึงจะได้
รับความทุกข์ในคราวมีอันตราย ย่อมได้สหาย.
[๕๐๘] การแสดงคุณวิเศษแห่งความเกี่ยวพัน และความสนิทสนมกันฉันท์มิตร
ในชนทั้งหลายผู้ไม่มีอารยธรรม เป็นคนมักอวด ย่อมไร้ผล การแสดง
คุณวิเศษแห่งความเกี่ยวพัน และความสนิทสนมกันฉันท์มิตร ที่กระทำ
ในอารยชนทั้งหลายผู้ซื่อตรง คงที่ แม้เล็กน้อย ก็ย่อมมีผลมาก.
[๕๐๙] ผู้ใด ได้ทำความดีงามไว้แต่กาลก่อนแล้ว ผู้นั้นชื่อว่า ได้ทำกิจที่ทำได้แสน
ยากในโลก ภายหลัง เขาจะทำก็ตาม ชื่อว่า เป็นบุคคลผู้ควรบูชายิ่งนัก.
ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ มหาอัสสาโรหชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดกจตุกกนิบาตชาดก ๑. กาลิงควรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น