วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ส.ว.ประภาศรี แนะรบ.จัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หนุน"คนไทยอำลาเมืองใหญ่กลับคืนถิ่น"
ส.ว.ประภาศรี เเนะรัฐบาลเปิดโครงการ "คนไทยกลับคืนถิ่น" อำลาเมืองใหญ่ นำทักษะฝีมือแรงงานกลับไปตั้งต้นชีวิต ลงทุนทำธุรกิจที่บ้านเกิด เสนอจัดเงินให้กู้ดอกเบี้ยต่ำรายละ 300,000 บาท คัด 10 จังหวัดนำร่อง เช่น ยโสธร อำนาจเจริญ บึงกาฬ หนองบัวลำภู สตูล เป็นต้น
วันที่ 4 มิ.ย.2563 นางประภาศรี สุฉันทบุตรสมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า หลังจากที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบพ ร.ก.3ฉบับ วงเงิน1.9 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาด โควิด-19 ตนเห็นว่ารัฐบาลควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการหมุนเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัวโดยเร็ว จึงขอเสนอโครงการ"คนไทยกลับคืนถิ่น" เป็นการ "ขนคน" กลับไปพัฒนาท้องถิ่นอันเป็น ภูมิลำเนาคือ เพื่อลงทุนทำกิจการ ให้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงครอบครัวเป็นการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ปัจจุบันคนออกจากถิ่นฐานกำเนิด ที่เป็นจังหวัดเล็กๆเข้ามาทำงานในเมืองเศรษฐกิจหรือเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต เป็นต้นทำให้ประชากรในเมืองเล็กๆ ลดลง ตลอดมา เเละเมื่อคนประสบปัญหา ถูกเลิกจ้างหรือไม่มีงานทำ ควรที่รัฐบาล จะรณรงค์ให้คนเหล่านี้กลับบ้านเกิดที่เป็นจังหวัดเล็กๆ คัดเลือกจังหวัดที่ยากจน เเละมีประชากรอยู่อาศัยน้อย
โดยเป็นโครงการนำร่องประมาณ 10 จังหวัด โดยใช้งบประมาณก้อนหนึ่ง ให้คนที่ต้องการกลับบ้านได้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ เเละให้เวลาคืนทุนระยะยาว เช่นให้กู้ประมาณ 300,000 บาท เพื่อให้ตั้งตัวได้ โดยนำไปลงทุนทำกิจการ เเละให้มีธนาคารเฉพาะกิจดูแลหรือมีหน่วยงานที่เหมาะสมมารับผิดชอบ
นางประภาศรี เสนอว่า โครงการ "คนไทยกลับคืนถิ่น "อาจจะ แบ่งประชากรออกเป็น 3 ส่วนคือ 1. ประชากรที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ได้แก่ วิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหรือ SMEs และเกษตรกร ซึ่งควร สนับสนุนเงินทุนมากที่สุดเพื่อให้ SMEs เเละเกษตรกรอยู่ได้ และไม่ย้ายฐานการผลิตออกไปที่อื่น
2. การย้ายกลับไปยังถิ่นฐานเดิมหรือย้ายกลับไปจังหวัดที่ยากจน เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้มีศักยภาพ เนื่องจากคนที่ย้ายกลับคืนถิ่น จะกลับมาพร้อมองค์ความรู้และทักษะด้านแรงงานที่แปลกใหม่และทันสมัย เป็นสิ่งแปลกใหม่ในชุมชน ควรมีมาตรการทางภาษี เเละมาตรการ ที่จะสร้างแรงจูงใจให้คนกลุ่มนี้กลับเข้าถิ่นฐานเดิมมากขึ้น
3. แรงงาน Skill labour กลับมาทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าว พืชผัก ผลไม้ นำไปสู่การเป็น Smart Farmer เต็มรูปแบบ เป็นการลดความแออัดของเมืองใหญ่ กลับไปใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ มีสุขภาพที่ดีในต่างจังหวัด
"ขอเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งองค์กรดูแลอย่างจริงจัง มีหน่วยงานรัฐรับผิดชอบ อาจเป็นกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์" นางประภาศรี กล่าวและว่า
ขณะเดียวกันก็ควรสร้างองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนทั้ง 3 กลุ่ม เเละสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งการดึงคนเข้ามาโดยใช้การศึกษาเป็นตัวตั้ง เช่นจัดให้มีการเปิดสอนเฉพาะสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด และสาขาวิชาชีพ ที่จบการศึกษาแล้ว สามารถพึ่งพาเลี้ยงชีพตนเองได้
นางประภาศรี ย้ำว่า"คนคือทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด" ภาครัฐต้องกล้าลงทุน ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จ ได้แก่ ระบบควบคุมที่ดี องค์ความรู้,การบริโภคที่ดี ตัวชี้วัดความสำเร็จคือ การกลับคืนถิ่นของทั้ง 3 กลุ่มประชากร และรายได้ของประชากรที่เพิ่มขึ้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอจัดตั้งโครงการ "คนไทยกลับคืนถิ่น "จะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การมีงานทำ มีรายได้ ที่สำคัญ คือ การพลิกโอกาส ฟื้นประเทศให้พ้นจากสภาวะวิกฤต ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมได้โดยเร็วอีกด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เพลง: ไม่ไหวก็เดินออกมา
ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌,ai ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno คลิกฟังเพลงที่นี่ (Verse 1) เคยจับมือเดินข้ามคืนวัน หวังว่าสักวันเราคงผ่าน แต่เสียงรอบข้า...
-
วิจารณ์สนั่นหลักสูตรบาลีป.ธ.1-2 ถึงป.ธ. 9 เรียนพระไตรปิฎก 149 หน้า "เจ้าคุณหรรษา" ยกสามเณร 2 รูป หนึ่งจบ ป.ธ. 9 อายุ 17 ปี หนึ่งจบ...
-
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น