วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ดาหน้าร้องผ่าน"ชวน"! ค้านรัฐบาลมีนโยบายดันไทยเข้าร่วม CPTPP



วันที่ 29 มิ.ย.2563   ที่ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และนายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เพื่อขอคัดค้านการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)  สืบเนื่องจากรัฐบาลมีแนวนโยบายที่ต้องการให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ซึ่งในส่วนการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนใน CPTPP ได้กำหนดให้สมาชิกเปิดเสรีในระดับสูง เพื่อให้สิทธิต่อผู้ให้บริการต่างชาติเข้ามาถือหุ้นข้างมากในนิติบุคคลในประเทศสมาชิก ตลอดจนการให้สิทธิเข้ามาซื้อกิจการอย่างเสรีและการให้สิทธิจัดตั้งกิจการแข่งขันกับ SMEs ในประเทศสมาชิกได้อย่างเสรี ทั้งนี้ สมาพันธ์ฯ ได้ศึกษาถึงผลกระทบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พบว่า CPTPP จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจการขนส่งทางบก ธุรกิจโลจิสติกส์ และความมั่นคงของประเทศไทย ดังนั้น จึงมีความเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้

1. การเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลง CPTPP ของไทย ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ โดยควรให้ประเทศไทยมีการพัฒนาจนกว่ามีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน

2. กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดใน CPTPP ยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายไทย ต้องใช้เวลาในการปรับสมดุลและความพร้อมด้านต่าง ๆ มากกว่านี้  รวมทั้งหน่วยงานรัฐควรทำความเข้าใจกับภาคเอกชนให้ครอบคลุมกว่าที่เคยปฏิบัติมา โดยให้มีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ

3. ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยจัดตั้งสภาการขนส่งทางถนนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้แทนขององค์กรเอกชน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในทุกกรณี อาทิ การแก้ไขปัญหาและการเยียวยา การสนับสนุนรัฐในการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและครอบคลุมรอบด้าน

4. จัดให้มีกฎหมายรองรับในการสนับสนุนส่งเสริมและการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกกระบวนการของภาคธุรกิจโลจิสติกส์ อาทิ ปรับปรุง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ พ.ศ. ....

5. จัดหามาตรการด้านการเงินเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการและสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย ได้แก่

1) จัดสรรเงินกู้ หรือจัดตั้งกองทุนให้ผู้ประกอบการเพื่อลดต้นทุนสำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออก

2) ลดอัตราการเรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม

3) ลดค่าธรรมเนียมและค่าบริการกับธนาคารพาณิชย์

6.. ผ่อนผันกฎระเบียบผู้นำเข้าและผู้ส่งออกให้กับกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับ Supply chain ระหว่างประเทศ อาทิ ค่าระวาง ค่าสินค้าและบริการภายในประเทศ ฯลฯ

7. รัฐบาลควรสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ ส่งเสริมการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ และพัฒนาบุคลากรให้เป็นมาตรฐาน

ด้านนายสมบูรณ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งต่อให้กับคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เพื่อศึกษาและพิจารณาต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

22 เมษา วันคุ้มครองโลก วัดพระธรรมกายถวายสังฆทานคณะสงฆ์ 10,000 วัดทั่วประเทศ และถวายสังฆทานสงฆ์ 4 จ.ชายแดนใต้

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567 เป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day เกิดขึ้นโดยวุฒิสภาชาวอเมริกันชื่อ Gaylord Nelson ที่ได้รณรงค์ให้ชาวอเมริกันร่วม...