วันที่ 9 มิ.ย.2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี รัฐบาลส่งสัญญาณต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กังวลเปิดภาคเรียน เปิดสนามบิน อาจทำให้เกิดการระบาดรอบที่ 2 ว่า 14 วันมาแล้วที่ประเทศไทยไร้ผู้ติดโควิด-19 ในประเทศ ผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากการกักตัวกรณีเดินทางมาจากต่างประเทศ การข่มขู่สร้างความหวาดกลัวว่าจะมีการระบาดรอบที่ 2 หรือการบอกว่า อย่านิ่งนอนใจ ต้องรอปลอดเชื้อ 30 วัน จึงจะพิจารณามาตรการผ่อนคลายต่อไป ต้องยอมรับว่าภาคประชาชน รับมือกับโควิด-19 ได้ดีกว่ารัฐบาล แม้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่มีวัคซีนทางสังคม ตระหนักรู้ ร่วมมือ ป้องกันโรค รัฐบาลต้องทบทวนว่ามาตรการที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ดำเนินธุรกิจของประชาชนหรือไม่ สามารถปลดล็อกอย่างปลอดภัย ให้ประชาชนทำมาหากิน ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ไม่ใช่สร้างอุปสรรคสิ่งกีดขวางใส่ประชาชน
ก่อนหน้านี้สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ มีข้อความขยะส่งมารบกวน มาถึงคำถาม กระทรวงกลาโหม มีความเกี่ยวข้องอย่างไร ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อ ขอให้ผู้ให้บริการมือถือส่งข้อมูลตำแหน่งสัญญาณมือถือย้อนหลัง 14 วัน ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของทุกคนที่อยู่บริเวณเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ โดยอ้างอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การกระทำในลักษณะนี้สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
"สุขภาพ กับ เสรีภาพ ไม่ต้องแลก ไม่ต้องเลือก สามารถอยู่ร่วมกันได้ แทนที่จะข่มขู่ประชาชน ควรสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19ได้" นายอนุสรณ์ กล่าว
กห.ยันไม่มีหน้าที่และไม่เคยขอหรือได้รับข้อมูลตำแหน่งมือถือประชาชนป้องกัน COVID แต่อย่างใด
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. ยืนยันว่า กห.ไม่เคยทำหนังสือไปถึง กสทช. ขอข้อมูลตำแหน่งมือถือประชาชน เพื่อการควบคุมป้องกันโรค COVID - 19 ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้การให้ข้อมูลของ พล.อ.รักศักดิ์ โรจน์พิมพ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม เพียงกล่าวถึง ความร่วมมือกันของหลายหน่วยงาน ที่ประชุมระดมความคิดเห็นแก้ปัญหาการแพร่ระบาดในช่วงสถานการณ์วิกฤตที่มีอัตราผู้ติดเชื้อภายในประเทศสูงกว่า 100 คนที่ผ่านมา
โดยมีการพิจารณาถึงประโยชน์ของข้อมูลตำแหน่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ติดเชื้อ เพื่อขยายผลการสอบสวนโรคกับผู้สัมผัสหรือใกล้ชิด ซึ่งสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ได้สรุปผลการประชุมถึงหน่วยงานต่างๆที่เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป
พร้อมย้ำว่า กห.ไม่มีหน้าที่ในการดำเนินการกับข้อมูลโทรศัพท์มือถือประชาชน และไม่เคยขอ หรือได้รับข้อมูลดังกล่าว จาก กสทช.เพื่อการควบคุมโรคที่ผ่านมาแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น