วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

'สุทิน คลังแสง'เตรียมชงปธ.สภาฯ ตรวจสอบสรรหา ส.ว. มีข้อพิรุธ


'สุทิน คลังแสง'เตรียมชงปธ.สภาฯ  ตรวจสอบสรรหา ส.ว. มีข้อพิรุธ  ขณะที่ "ชวลิต" แย้ง "วิษณุ" กก.สรรหา ส.ว. ผลัดกันเกาหลัง  ด้าน "ลดาวัลลิ์"  ชี้ลักษณะ "จุดด้อย 4 ป" ของ"บิ๊กตู่"น่าสงสัย  

วันที่ 12 มิ.ย.2562 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามการเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. และที่มาของ ส.ว. 250 คน ว่า การสรรหามีข้อพิรุธโดยเฉพาะการที่ไม่ปรากฏคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ในราชกิจจานุเบกษา และที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้ร้องให้เปิดเผยรายชื่อไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องเปิดเผยรายชื่อ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวสังคมมีข้อสงสัยถึงกระบวนการสรรหาและรายชื่อ ส.ว.ที่ออกมา ว่าการเลือก ส.ว. มีปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เนื่องจากมี ส.ว.บางคน ถูกมองว่าเป็นกรรมการสรรหาที่ คสช. แต่งตั้งด้วย ซึ่งข้อสังเกตทั้งหมดควรมีความชัดเจน เพราะจะส่งผลต่อระบบนิติรัฐ และธรรมาภิบาลของประเทศ และที่สำคัญที่สุด หากกระบวนการสรรหา ส.ว. มีปัญหา ก็จะส่งผลให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นโมฆะ 

นายสุทิน ยังเปิดเผยว่า จะเสนอญัตติเร่งด่วน แก่ประธานสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นได้หารือกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งก็เห็นด้วยเพราะเรื่องนี้มีความสำคัญ และพรรคก็สนับสนุนให้ดำเนินการ เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา และใช้อำนาจเรียกบุคคลลใน รัฐบาล  คสช. หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริง


 "ชวลิต" แย้ง "วิษณุ" กก.สรรหา ส.ว. ผลัดกันเกาหลัง  
         
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ไม่มีกรรมการสรรหา ส.ว. คนใดเสนอชื่อตัวเองเป็น ส.ว.  แค่เสนอชื่อกันเองเท่านั้น
             
นายชวลิต ฯ กล่าวว่า นี่เป็นคำสารภาพของนายวิษณุ ฯ เอง ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา นับเป็นการสารภาพที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กรรมการสรรหาไม่มีความเป็นกลาง ขัด รธน.มาตรา 269(1) อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ กล่าวคือ 1. คำกล่าวที่ว่า แค่เสนอชื่อกันเองนั้น นั่นแหละ คือ ความไม่เป็นกลางอย่างชัดเจนที่สุด เพียงถามนักศึกษาปี 1 คณะนิติศาสตร์ ไม่ว่าสถาบันใด ไม่ต้องถึงขั้นเป็นศาสตราจารย์ ก็จะได้คำตอบอย่างวิญญูชนทั่วไปว่า การผลัดกันเกาหลัง มีความ  "ไม่เป็นกลาง"
            
การเสนอชื่อกันเองในคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ด้วยกัน อย่างที่นายวิษณุ ฯ อธิบาย  เข้าลักษณะผลัดกันเกาหลัง ได้ประโยชน์ทั้งคู่ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนที่อ้างว่า ไม่มีใครเสนอชื่อตนเองเป็น ส.ว. นั้น ในทางปฏิบัติ ไม่มีใครเสนอชื่อตนเองอยู่แล้ว แค่กระซิบให้คนที่จะถูกเสนอชื่อ เดินออกไปเข้าห้องน้ำ แล้วผลัดกันเสนอชื่อ อย่างนี้ก็ได้หรือ แก้ตัวไม่ขึ้นครับ ถ้าประเทศนี้รับกันได้ ก็หาความอายไม่ได้ครับ ความเชื่อมั่นประเทศในระบบนิติธรรม ก็จะเหลือศูนย์ หาคนมาลงทุนยากครับ
              
นอกจากนั้น ในการตีความทางกฎหมาย ผมยังมองไม่ออกว่าจะใช้อภินิหารทางกฎหมายออกช่องไหนว่า การสรรหา ส.ว.โดยผลัดกันเกาหลัง มีความเป็นกลาง อยากเห็นจริง ๆ ว่าจะหาทางออกอย่างไร ถึงจะไม่ให้ลูกหลานก่นด่าบรรพบุรุษในภายหลังได้
              
2. ผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. แล้วกรรมการสรรหานั้น ก็เลือกกันเองเป็น ส.ว. นอกจากไม่เป็นกลาง ขัด รธน.มาตรา 269(1) แล้ว ยังขัด รธน.มาตรา 114 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ กล่าวคือ พล.อ.ประยุทธ์  หัวหน้า คสช.เป็นผู้ออกคำสั่งที่ 1/2562 แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.  ต่อมากรรมการสรรหา ส.ว.ก็เลือกกันเองเป็น ส.ว. เมื่อเป็น ส.ว.แล้ว ก็ไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ในอีกสถานะหนึ่งซึ่งเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายขัด รธน. มาตรา 114 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ 
          
นอกจากมีบทบัญญัติใน รธน.ของไทยแล้ว ในนานาอารยประเทศก็มีการบังคับใช้ที่เรียกว่า confiict of interest จึงเห็นได้ว่า การสรรหา ส.ว.ครั้งนี้ ทั้งในกรรมการสรรหา ส.ว.ด้วยกันเอง และการสรรหา ส.ว.โดยภาพรวม ขัด รธน.มาตรา 114 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อีกมาตราหนึ่ง นอกเหนือจากขัด รธน. มาตรา 269(1) ดังกล่าวข้างต้น
            
3. คำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ไม่ใช่เอกสารลับ ด้วยเหตุผล 2 ประการ  ประการแรก ผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยส่งคำสั่ง คสช.ดังกล่าวให้ศาล รธน.วินิจฉัย ในประเด็นปัญหาความชอบด้วย รธน.มาตรา 81 วรรคสอง และมาตรา 269 (1)(ข) และ (ค) หรือไม่ ซึ่งศาล รธน.ไม่รับวินิจฉัย ด้วยเหตุผลที่ว่า คำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 ไม่เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีผลบังคับใช้เป็นการทั่วไป ตามความหมายของ รธน.มาตรา 231(1) จึงเห็นได้ว่า เมื่อมีการตรวจสอบคำสั่ง คสช.ดังกล่าว ระหว่างผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาล รธน.  คำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 จึงไม่ใช่เอกสารลับแต่อย่างใด เพราะเปิดเผยในการพิจารณาของศาล รธน.
               
ประการที่สอง คสช.เคยอ้างว่า ที่ยังไม่เปิดเผยคำสั่ง คสช. ดังกล่าว เกรงจะไม่เป็นกลาง เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้น แต่สถานการณ์ปัจจุบัน มีการแต่งตั้ง ส.ว.เรียบร้อยแล้ว ไม่มีการวิ่งเต้นใด ๆ อีกที่จะอ้างได้  ตรงกันข้าม การไม่เปิดเผยคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เท่ากับตอกย้ำความไม่เป็นกลางของ คสช.เสียเอง ส่อพิรุธว่าไม่มีความเป็นกลาง จึงไม่กล้าเปิดเผย 

อนึ่ง มี ส.ว.ท่านหนึ่งให้เหตุผลว่า ส.ว.ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งแล้ว มีการกล่าวปฏืญาณตนในที่ประชุมวุฒิสภาก่อนการปฏิบัติหน้าที่แล้ว นั้นประเด็นนี้ เป็นเรื่องน่าอับอาย และไม่บังควรมากที่สุด ความจริง ส.ว.ท่านนั้นก็จบกฎหมาย รู้ขั้นตอน ระเบียบประเพณีทางกฎหมายดีว่า ในการลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมายใด จะมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และถือเป็นหน้าที่ของผู้รับสนองพระบมราชโองการที่จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น หากพระบรมราชโองการนั้น มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจากความบกพร่อง ไม่ละเอียด รอบคอบในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงของผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ก็พอที่จะอภัยในความบกพร่องได้ แต่ถ้าเป็นความจงใจในการกระทำความผิด แล้วโยนภาระนั้นว่าเป็นพระบรมราชวินิจฉัยแล้วนั้น ก็ไม่สมควรได้รับการอภัยแต่อย่างใดเลย ในทางการเมือง ผมจะตามประเด็นนี้เป็นประเด็นหนึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา ฯ  ในข้อกฎหมาย ฝ่ายกฎหมายของ พท.กำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่จะดำเนินการตรวจสอบตามช่องทาง รธน.และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาความเป็นธรรมให้กับสังคมต่อไป


“ลดาวัลลิ์” ชี้ลักษณะ “จุดด้อย 4 ป” ของ”พลเอกประยุทธ์ น่าสงสัย” 
          
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ถูกสื่อต่างชาติ วิพากษ์วิจารณ์ถึงชัยชนะด้วยกติกาบิดเบี้ยว เอาเปรียบคู่แข่งขัน สุ่มเสี่ยงจะไม่ได้รับความร่วมมือจากนานาชาติ นับเป็นจุดด้อยของพลเอกประยุทธ์ฯซึ่งสรุปได้ “4ป”ดังนี้ 1).ป-“เปิดทาง” รธน.เขียนกติกาต่างๆเปิดทางให้สืบทอดอำนาจ 2).ป-“ปกปิด” กกต.ปกปิดไม่ยอมเปิดเผยคะแนนดิบทุกหน่วยเลือกตั้ง การคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิส ก็ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และปกปิดรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. กระบวนการสรรหาและงบประมาณที่ใช้สรรหา 3).ป-“โป้ปด” ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว.โป้ปดหลายครั้งเช่นที่ไม่เปิดเผยเนื่องจากเกรงจะมีการวิ่งเต้น,จะเปิดเผยเมื่อถึงเวลา,นายวิษณุ เครืองามบอกว่าถ้า คสช.ไม่เปิดเผยตนจะนำมาเปิดเผยเอง แต่จนวันนี้ก็ยังไม่เห็นรายชื่อดังกล่าว 

4).ป-“ปัดสวะ” มีข่าวหลุดออกมาว่าคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว.หายไปจากราชกิจจานุเบกษาอย่างน่าสงสัยว่ามีการแต่งตั้งกรรมการสรรหาฯจริงหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ก็ปัดให้นายวิษณุเป็นคนตอบ และปัดว่าเป็นแค่คำสั่งไม่ใช่กฎหมายจึงไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจาฯ ทั้งที่ข้อบัญญัติรัฐธรรมนูญกำหนดให้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ย่อมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ควรประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ 
          
นางลดาวัลลิ์กล่าวอีกว่าเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อมีข่าวหลุดออกมาสู่สาธารณะ ก็รีบประกาศรายชื่อสมาชิกสำรอง 50 คนเมื่อวานนี้ และพบว่าลำดับที่ 8  พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา ยังทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ กกต. อยู่   รวมทั้งยังมีบางท่านเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครองอยู่ จึงขอถามว่าควรมีชื่อขึ้นบัญชีฯหรือไม่ ?
          
“นี่แค่รายชื่อ ส.ว.สำรอง ยังเกิดมีคำถามถึงความเหมาะสมของบางคน จึงยิ่งอยากเห็นรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ทั้งชุดโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่า คสช.ได้ดำเนินการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่?” นางลดาวัลลิ์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กกต.เตือนผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกเป็น สว. ศึกษาและทำความเข้าใจระเบียบการแนะนำตัวให้เป็นไปตามกฎหมาย

   เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567  ด้วยปรากฏว่ามีบุคคล กลุ่มบุคคล ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเล...