วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562

'มาร์ค'คลอดปิติ!นโยบายดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจไทย



 วันที่ 9 มี.ค.2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมเศรษฐกิจ แถลงนโยบาย 10 จุดเปลี่ยน เศรษฐกิจไทย สร้างชาติ ประกอบด้วย 

1. GDP >>> PITI (Prosperity Index Thailand Initiative) : เปลี่ยนตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจใหม่ จาก “GDP” เป็น “ดัชนีปิติ” ให้สะท้อนความเป็นอยู่ของประชาชน ถือเป็นเศรษฐกิจของชาวบ้าน เศรษฐกิจเพื่อชีวิตประชาชนอย่างแท้จริง

2. Logistics สร้างชาติ - โครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยง "มหานคร" :

- เร่งรัดผลักดันสร้างรถไฟฟ้าทุกสี และลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ 

- รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เน้นเส้นยุทธศาสตร์ East-West Corridor

- รถไฟความเร็วสูงเชื่อมโลก เชื่อมจีนถึงสิงคโปร์ ที่หนองคาย-กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์

- มอเตอร์เวย์สุดชายแดนเหนือใต้ เชียงราย-บางปะอิน สุไหงโกลก-นครปฐม

- พัฒนา 12 มหานคร กระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำทั่วไทย

3. GovTech : 

- ปฏิรูประบบราชการ ให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยี 

- ปรับกลไกของรัฐ ใช้ Blockchain และ ปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) เพื่อการทำงานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ) 

- จัดตั้งกองทุน Smart Health และ Smart Education 

- ใช้ Big Data จัดการฐานข้อมูล 

 - แก้และปรับปรุงกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างและกฎหมายที่ถ่วงภาครัฐ ให้บริการประชาชนได้เต็มที่ 

- ผลักดันให้ Startups เชื่อมโยงการทำงานกับภาครัฐ

4. ปฏิวัติเขียวอุตสาหกรรม : ส่งเสริมอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่เน้นเรื่องความยั่งยืน สะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ให้ไทยเป็น EV Global Supply Chain ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมรถไฟ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตกระแสไฟฟ้า ชีวภาพ ชีวมวล พลังงานลมและแสงอาทิตย์ ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจยั่งยืน

5. เศรษฐกิจ Hi-Touch ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เป็นเป้าหมายใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนบนศักยภาพไทย (Thainess) ผลักดันการท่องเที่ยวพรีเมียม อุตสาหกรรมสื่อบันเทิง ศิลปะ (Arts) งานสร้างสรรค์และออกแบบ และเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่

6.  เกษตรยุคใหม่ : ส่งเสริมเกษตรกรเป็น Entrepreneur ทางการเกษตร ส่งเสริมวนเกษตร “ป่าพารวย” ส่งเสริม Modern Co-op เน้นการพัฒนาการบริหารจัดการ กระบวนการผลิต R&D แปรรูป Marketing Branding ให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันในรูปแบบสหกรณ์ยุคใหม่ เข้าถึงตลาดได้เอง มีการแปรรูปข้ามอุตสาหกรรม และเพิ่มมูลค่า

7. ปีแห่งการแก้หนี้ - หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต  หนี้เกษตรกร

- หนี้บัตรเครดิต แก้ พ.ร.บ.บัตรเครดิต ให้คิดดอกเบี้ยให้เป็นธรรม 

- รีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบเข้าในระบบ 

- ไม่ให้ ธ.ก.ส. ยึดที่ดินทำกินของเกษตรกรที่เข้าโครงการแก้หนี้ ฟื้นฟูรายได้

8. เกษียณเงินล้าน : เปลี่ยนสังคม ให้เป็นสังคมการออมรองรับสังคมสูงอายุ ด้วยการยกระดับกองทุนการออมแห่งชาติ ออมหลักร้อยตอนเข้าทำงาน รับหลักล้านตอนเกษียณ ทั้งแรงงานในและนอกระบบ

9. “คลังเข้มแข็ง ภาษีเท่าเทียม” 

- ปฏิรูประบบภาษี และการหารายได้ภาครัฐ 

- ปรับโครงสร้างภาษีให้เป็นธรรม เก็บคนรวย ดูแลคนรายได้ปานกลาง และให้สวัสดิการพื้นฐานแก่คนยากจน

- เก็บรายได้ภาษีจากเศรษฐีหุ้น-ที่ดิน-ทรัพย์สิน 

- สร้างรายได้เพิ่มจากการบริหารเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ 

- ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ 

- บริหารจัดการปรับลดงบกลาง ปรับลดงบซ้ำซ้อน 

เพื่อการสร้าง “คลังเข้มแข็ง ภาษีเท่าเทียม”

10. No Corruption : มีมาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาด จริงจัง!  โดยจะมาเปิดเผยนโยบายอีกครั้งก่อนวันที่ 24 มีนาคม





ทั้งนี้คำว่า ปิติ นั้น ตรงกับบาลี คือ Pīti หมายถึง ความอิ่มใจ ความดื่มด่ำ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคและวิมุตติมรรค แบ่งปีติเป็นห้าประเภท คือ

ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล หลั่งสารทางเพศ

ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆเป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ เสียวซ่านถึงรูขุมขน

โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นระลอก หรือปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง

อุพเพคาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู แสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ

ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ ปีติที่ประกอบกับสมาธิ ท่านมุ่งเอาข้อนี้

ขุททกาปีติและขณิกาปีติสามารถเข้าถึงได้ด้วยศรัทธา โอกกันติกาปีตินั้นถ้ามีมากย่อมทำอุปจารสมาธิให้เกิดขึ้น อุพเพคาปีติที่ยึดติดกับดวงกสิณ ทำให้ทั้งกุศลและอกุศลเกิดขึ้น และขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ ผรณาปีติบุคคลทำให้เกิดขึ้นในสภาวะแห่ง อัปปนาสมาธิ

ในคัมภีร์วิมุตติมรรค ยังมีการแบ่งอีกแบบหนึ่ง แบ่งปีติเป็นหกประการ คือ

ปีติเกิดจากราคะ ความอิ่มใจเพราะความชอบ หลงใหล และความอิ่มใจที่ประกอบด้วยกิเลส

ปีติเกิดจากศรัทธา ความอิ่มใจของบุคคลผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้า

ปีติเกิดจากความไม่ดื้อด้าน ความอิ่มใจอย่างยิ่งของคนดี มีใจบริสุทธิ์

ปีติเกิดจากวิเวก ความอิ่มใจของบุคคลผู้เข้าปฐมฌาน

ปีติเกิดจากสมาธิ ความอิ่มใจของบุคคลผู้เข้าทุติยฌาน

ปีติเกิดจากโพชฌงค์ ความอิ่มใจที่เกิดจากการดำเนินตามโลกุตตรมรรค ในทุติยฌาน

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง

ปีติ พบรวมอยู่ในหลักธรรมอื่นๆทางพุทธศาสนา เช่น

โพชฌงค์ 7  คือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา)

องค์ฌาน ได้แก่ ในปฐมฌานประกอบด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข และเอกัคคตา) ทุติยฌานประกอบด้วย ปีติ สุข และเอกัคคตา)

นอกจากนี้ ปีติยังเป็นหนึ่งในวิปัสสนูกิเลส 10  (อุปกิเลสแห่งวิปัสสนา)

ปีติเจตสิก

ในคัมภีร์พระอภิธรรม มีการกล่าวถึงปีติในลักษณะที่เป็นเจตสิก (ธรรมชาติที่อาศัยจิตเกิด) เรียกว่า "ปีติเจตสิก" มีลักษณะดังนี้ คือ

มีความแช่มชื่นใจในอารมณ์เป็น "ลักษณะ"

มีการทำให้อิ่มกายอิ่มใจ หรือทำให้ซาบซ่านทั่วร่างกาย เป็น "กิจ" มีความฟูใจเป็น "ผล" มีนามขันธ์ 3  ที่เหลือ ได้แก่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และวิญญาณขันธ์) เป็น "เหตุใกล้" 

ธรรมชาติของปีตินี้ เมื่อเกิดขึ้นกับใครย่อมทำให้ผู้นั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจ มีหน้าตาและกายวาจาชื่นบานแจ่มใสเป็นพิเศษ บางทีก็ทำให้รู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ซึ่งเกิด
จากปีติแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายนี่เอง และทำให้จิตใจของผู้นั้นแช่มชื่น เข้มแข็ง ไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่ออารมณ์

อาการปรากฏของปีตินี้ คือ ทำให้จิตใจฟูอื่มเอิบขึ้นมา

ปีติจะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมต้องอาศัยนามขันธ์ 3  คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และวิญญาณขันธ์ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด

เวทนาขันธ์ที่เป็นเหตุใกล้ให้เกิดปีตินั้น ย่อมอาศัยสุขเวทนา เป็นต้น เป็นเหตุให้ปีติเกิด ด้วยเหตุนี้เอง บางทีเราเข้าใจว่า ปีติและสุขเป็นอันเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ แต่ความจริงนั้นปีติกับสุขต่างกัน คือ ปีติเป็นสังขารขันธ์ สุขเป็นเวทนาขันธ์ และเมื่อมีปีติจะต้องมีสุขเสมอแน่นอน แต่ว่าเมื่อมีสุข อาจจะไม่มีปีติด้วยก็ได้

................................

หมายเหตุ :  ข้อมูลปิติจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุคคลไม่ควรคบยามสูงวัย

การแยกแยะบุคคลที่ควรคบในวัยสูงอายุเป็นสิ่งสำคัญในบริบทพุทธสันติวิธี เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขภายในและการใช้ชีวิตที่สมดุล การปฏิบัติตามหลักธร...