วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

บาตรเปิด-บาตรปิดพระอาจารย์นก วัดเขาบังเหยบาตรเปิดพุทธคุณเปิดรับทรัพย์ บาตรปิดพุทธคุณมหาอุตม์ ค้าขาย และแคล้วคลาด



พระอาจารย์เฉลิมชัย ฐิตตธมโม หรือ พระอาจารย์นก ฐิตตธมโม แห่งวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม หมู่บ้านซับมงคล ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นพระสายปฏิบัติศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ท่านบวชเณรมาจาก จ.ชัยภูมิ ไปอยู่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวน สุจิณโน ที่เชียงใหม่ ก่อนที่หลวงปู่จะละสังขาร วิชาและความรู้หลวงปู่แหวนได้เมตตาถ่ายทอดให้พระอาจารย์นก เป็นอย่างมาก

หลังจากหลวงปู่แหวนละสังขาร มีการพระราชทานเพลิงศพแล้ว พระอาจารย์นกได้ธุดงค์เดินทางด้วยเท้ารอนแรมอยู่ในป่าทางภาคเหนือเพื่อทบทวนวิชาและความรู้ที่เล่าเรียนมา เมื่อเดินทางมาถึงเขาพังเหยบริเวณตำบลโปร่งนก ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน ท่านเห็นว่าอาณาบริเวณนี้เป็นป่าที่สามารถฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติได้ เป็นสถานที่สงบเหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมเพื่อเจริญสติ ตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ที่ท่านศึกษาเล่าเรียนมา



สิ่งหนึ่งที่พระอาจารย์นกได้ตั้งสัจจะและยึดปฏิบัติโดยถือว่าเป็นกฎประจำตัวตั้งแต่บวชจนถึงทุกวันนี้ คือ พระเครื่องและวัตถุมงคลตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันที่สร้างมากว่า ๓๐ ปี คือ สร้างเพื่อแจกฟรีเพื่อเป็นทานเท่านั้น เพื่อให้คนจน คนไม่มีได้มีของดีไว้ใช้ มีของยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพียงเพื่อให้เป็นบุญเท่านั้น ผู้ที่รับไปล้วนมีประสบการณ์เล่าขานกันมากมาย

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ญาติโยมใน 3 อำเภอ คือ อ.เทพสถิตย์ อ.ภักดีชุมพล และ อ.หนองบัวระเหว (ของจังหวัดชัยภูมิ) ศรัทธาเลื่อมใสในข้อวัตรปฏิวัติของพระอาจารย์นก ทั้งๆ ที่ไม่มีการ "ใบ้หวย" แต่มีการสร้างเหรียญมอบให้ญาติโยมโดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน แนวทางการสอนเน้นไปที่การถือสัจจะ การรักษาศีล และการเจริญภาวนา ตรงกับพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



 ชื่อเสียงของ พระอาจารย์นก แห่งวัดเขายังเหยชุมพลสีมาราม โดดเด่นมาก ความโดดเด่นตรงนี้ได้ทำให้พ่อค้า คนมีเงิน แห่เอาอิฐ หิน ปูน ทราย และไม้กระดานแผ่นใหญ่มาบริจาค เพื่อจะได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ ทำให้วัดมีวัสดุก่อสร้าง ไม้กระดาน ไม้ท่อนกองเต็มไปหมด

วัตถุมงคลของพระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย จ.ชัยภูมิมี สุดยอดประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลของท่านท่านแจกฟรีครับ ห้ามขาย ท่านสาปแช่งไว้ว่าคนซื้อรวยคนขายจน วัตถุมงคลของท่านมีผู้ประสบพบเจอประสบการณ์มากมาย เหรียญรุ่นแรกของท่านคือเหรียญโหดครับ รุ่นสองเหี้ยม รุ่นสามหด ถ้ามีครบชุดไปไหนไม่ต้องกลัวภัยอันตรายทั้งปวงจน มีคำกล่าวไว้ว่าเหรียญโหดเหี้ยมหดคือรุก รับ ทำลาย สลาย กันอันตรายทั้งปวง กันและแก้คุณไสยมนต์ดำ เป็นคงกระพันมหาอุด เป็นอีกหนึ่งของดีที่ลูกศิษย์ลูกหาอยากได้กันเพราะต่างศรัทธาในตัวท่านอาจารย์นก



อักขระยันต์ที่อยู่บนวัตถุมงคลทั้งหมดวัดเขาบังเหยจะเป็นอักขระ ขอมพิสดาร ครับ ตัวยันต์ที่เห็นเรียกว่าขอมพิสดารต่างกลับตัวยันต์วัดอื่นที่ ใช้กันโดยทั่วไปและเป็นที่รูจักกันว่า ขอมกลาง วัดเขาบังเหย แห่งเดียวบนพื้นโลกนี้ เอา เป็นว่าตัวอักขระ ทั้งหลายเหล่านี้เป็นของสูง ฟังมาว่า แม้ตัวอักขระ ตัวเดียวโดดๆแม้ไม่ต้องอธิษฐานจิต ก็มีพุทธคุณในตัว กันตาย กันอุบัติเหตุได้ 

ท่านพระอาจารย์ได้นั้งสมาธิ แล้วเกิดนิมิต ขึ้นเป็นตัวหนังสือว่า โหด เหี้ยม หดพอตัวหนังสือเกิดขึ้นครบแล้ว ก่อนที่ตัวหนังสือจะหายไป ดินก็ผ่าขึ้นไปบนฟ้า เสียงดังสนั่นแม้แต่พระเณรในวัด ตอนนั้นก็ได้ยินทั่วกัน

พระอาจารย์นกบอกว่า “วัตถุมงคลแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณสูง แต่ไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดในโลกกันตายได้แต่ช่วยเหลือไม่ให้ได้ตาย และไม่ได้หมายความว่าวัตถุมงคลชนิดเดียวกันจะช่วยเหลือคนได้ทุกคนเหมือนกัน หากต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาด้วย เมื่อมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ เมื่อไร้ศรัทธาก็ไร้ปาฏิหาริย์ ไม่ว่าโจรหรือตำรวจหากมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ต่างกัน”

สำหรับบาตรเปิดพุทธคุณเปิดรับทรัพย์ บาตรปิดพุทธคุณมหาอุตม์ ค้าขาย และแคล้วคลาด พุทธคุณรอบด้าน หายากจริงๆคนในพื้นที่หวงกันมาก ราคาเล่นหากันสูงใครมีไม่ปล่อยกันง่ายๆ เดี๋ยวพอหลังภัยพิบัติใหญ่จะ ประสบการณ์จากบาตรปิดฝา วัดเขาบังเหย เล่าประสบการณ์โดย นางสาวพัชรี มนตรี อายุ 18 ปิ อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 12 บ้านศรีเมือง ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ข้าพเจ้าไปทำบุญที่วัดเขาบังเหยและได้รับแจก “บาตรปิดฝา” จึงนำมาพกติดตัวไว้ 

มีอยู่วันหนึ่งไปขายของที่ตลาด พอดีจะเสียบปลั๊กไฟเพื่อเปิดไฟที่แผงขายของ แต่ปรากฏว่าเสียบปลั๊กไฟเข้าไปแล้วเกิดไฟช็อต ข้าพเจ้าตกใจมาก พยายามที่จะสลัดมือออกจากปลั๊กแต่มันไม่ออก ทำยังไงมือมันก็ไม่หลุดจากปลั๊กไฟเพราะถูกไฟดูดอย่างแรง ข้าพเจ้านึกว่าตัวเองจะตายซะแล้ว แต่ก็นึกอยู่ในใจว่ายังไม่อยากจะตาย แต่ทำยังไงมือก็ไม่หลุดออกจากปลั๊กไฟ ข้าพเจ้าทำใจแล้วว่าตัวเองไม่รอดแน่ๆ จึงนึกถึงบาตรวัดเขาบังเหยที่พกติดตัวไว้ พอสักพักหนึ่งก็ปล่อยมือที่โดนไฟดูดก็หลุดออกจากปลั๊กไฟได้โดยง่ายดาย ขอบคุณประสบการวัตถุมงคลจากเว็บไซด์วัดเขาบังเหย

เมื่อถามว่า “การสร้างวัตถุมงคลเป็นเปลือกของพุทธศาสนาทำให้คนติดและหลงใหลในวัตถุมงคล” ทั้งนี้พระอาจารย์นกได้ตอบคำถามไว้อย่างน่าคิดว่า 

“ทุกอย่างมีเปลือก ต้นไม้อยู่ได้เพราะเปลือกที่คอยปกป้องเลี้ยงกระพี้และแก่นให้เจริญเติบโต ศาสนาก็มีเปลือกที่คอยปกป้องอุ้มชูเลี่ยงกระพี้และแก่น ถ้าศาสนามีแต่แก่นทุกคนมุ่งแต่หลุดพ้นอย่างเดียววันนี้คงไม่มีพุทธศาสนาแล้ว เพราะถ้าคนไม่ทำทานไม่ทำบุญซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา แล้วจะมีการสร้างศาสนสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าพุทธศาสนาไม่มีเปลือกพระเณรก็จะอยู่ไม่ได้”

พระอาจารย์นก พูดถึงการสร้างศาสนสถานในวัดให้สวยงามว่า “คนทุกคนไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ต่างต้องการความสะดวกสบายและอยากเห็นสิ่งสวยๆ งามๆ กันทั้งนั้น ห้องน้ำที่สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกภายในวัด อาตมาไม่ได้สร้างเพื่อพระสงฆ์แต่สร้างเพื่อพุทธศาสนิกชน ลำพังพระที่อยู่ในวัดมีไม่กี่รูปไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรมากมาย แต่ญาติโยมที่เข้าวัดมีมากกว่าพระเป็นร้อยๆ เท่า จึ่งต้องสร้างไว้ต้อนรับญาติโยม

ศาสนสถานภายในวัดเมื่อสร้างเสร็จก็อยู่คู่กับวัดไปตลอดชาติ เป็นมรดกของพุทธศาสนา เป็นของพุทธศาสนิกชน ซึ่งต้องสร้างให้ขึ้นชื่อว่าดีที่สุด ไม่ใช่เป็นของพระอย่างที่คนเข้าใจกัน พระเป็นเพียงผู้รวบรวมพลังศรัทธาของญาติโยมเท่านั้น 

ย่างไรก็ตามแม้ว่าพระอาจารย์นกจะเป็นหัวแรงสำคัญในการนำศรัทธาญาติโยมและลูกศิษย์ในการสร้างวัดเขาบังเหย แต่ท่านไม่ได้เป็นและรับตำแหน่งเจ้าอาวาส พระที่เป็นเจ้าอาวาสชื่อ “พระครูไพบูลย์ธรรมกิจ” ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ญาติโยมในพื้นที่แถบนี้ไม่น้อยกว่า ๓ อำเภอ พากันหลั่งไหลไปกราบ กอปรกับวัดนี้มีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นพระหมอยา มีความสามารถ “ผสมยา” ในป่า ต้มให้ญาติโยมอาบ อบ รักษาโรคฟรี ไม่ต้องใช้เงินบูชาเอายาใดๆ คนป่วยส่วนใหญ่หายจากโรคภัยไข้เจ็บอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ถ้าศาสนามีแต่แก่นทุกคนมุ่งแต่หลุดพ้นอย่างเดียววันนี้คงไม่มีพุทธศาสนาแล้ว เพราะถ้าคนไม่ทำทานไม่ทำบุญซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา แล้วจะมีการสร้างศาสนสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าพุทธศาสนาไม่มีเปลือกพระเณรก็จะอยู่ไม่ได้”

การเดินทางใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๕ (สาย จ.ชัยภูมิ- อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์) ผ่านหน้าวัด ห่างจากตัว จ.ชัยภูมิ ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร 

ถ้ามาจากมวกเหล็กวิ่งมาทางเขาน้อยผ่าน อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เข้า อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เข้าทางลัดมาทาง ต.นายางกลัด ออกบ้านซับมงคล เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไป อ.ภักดีชุมพล ประมาณ ๓ กิโลเมตร

นอกจากนี้แล้วถ้ามาทางลำนารายณ์มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๕ เข้าอำเภอเทพสถิต หรือถ้ามาจาก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เข้า อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ประมาณ ๗ กิโลเมตร ก็จะถึงวัด

เข้าดูข้อมูลได้ที่..... ถ้าศาสนามีแต่แก่นทุกคนมุ่งแต่หลุดพ้นอย่างเดียววันนี้คงไม่มีพุทธศาสนาแล้ว เพราะถ้าคนไม่ทำทานไม่ทำบุญซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา แล้วจะมีการสร้างศาสนสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าพุทธศาสนาไม่มีเปลือกพระเณรก็จะอยู่ไม่ได้”

การเดินทางใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๕ (สาย จ.ชัยภูมิ- อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์) ผ่านหน้าวัด ห่างจากตัว จ.ชัยภูมิ ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร 

ถ้ามาจากมวกเหล็กวิ่งมาทางเขาน้อยผ่าน อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เข้า อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เข้าทางลัดมาทาง ต.นายางกลัด ออกบ้านซับมงคล เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไป อ.ภักดีชุมพล ประมาณ ๓ กิโลเมตร

นอกจากนี้แล้วถ้ามาทางลำนารายณ์มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๕ เข้าอำเภอเทพสถิต หรือถ้ามาจาก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เข้า อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ประมาณ ๗ กิโลเมตร ก็จะถึงวัด

เข้าดูข้อมูลได้ที่.....http://www.watkaobanghery.com/ และ.....https://www.facebook.com/groups/197434488591034 http://www.watkaobanghery.com/
และ.....https://www.facebook.com/groups/197434488591034

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เผยงานวิจัยป.เอกสันติศึกษา "มจร" พัฒนานักขายรุ่นใหม่ ยกระดับความเป็นมืออาชีพ

วันที่ ๒๘  มีนาคม  ๒๕๖๗  พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. กระบวนกรธรรมะโอดี เป็นวิทยากรพัฒนาและฝึกอบรมนักขายทั่วประเทศ ภายใต้หลักสูตร "การพัฒ...