ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ เรื่อง "วิเคราะห์ อุปปัตติสูตร-กามสูตร ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 17 ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ติกนิบาต ๕. ปัญจมวรรค ที่ประกอบด้วย
๖. อุปปัตติสูตร
[๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การเข้าถึงกาม ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน
คือ เหล่าสัตว์ผู้มีกามอันปรากฏแล้ว ๑ เทวดาผู้ยินดีในกามที่ตนนิรมิตเอง ๑ เทวดา
ผู้ให้อำนาจเป็นไปในกามที่ผู้อื่นนิรมิตให้ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย การเข้าถึงกาม
๓ อย่างนี้แล ฯ
เหล่าสัตว์ผู้มีกามอันปรากฏแล้ว เทวดาผู้ยินดีในกามที่นิรมิต
เอง เทวดาผู้ยังอำนาจให้เป็นไป ทั้งมนุษย์และสัตว์ผู้บริโภค
กามเหล่าอื่น ซึ่งเป็นผู้ฉลาดในการบริโภคกาม ย่อมไม่ก้าว
ล่วงสงสารอันมีความเป็นอย่างนี้และมีความเป็นอย่างอื่นไปได้
บัณฑิตพึงสละกามทั้งที่เป็นของทิพย์ทั้งที่เป็นของมนุษย์ เสีย
ทั้งหมด บัณฑิตทั้งหลายตัดกระแสตัณหาในปิยรูปและสาตรูป
ที่บุคคลก้าวล่วงได้โดยยากได้แล้ว ย่อมปรินิพพานโดยไม่มี
ส่วนเหลือล่วงทุกข์ได้โดยไม่มีส่วนเหลือ บัณฑิตทั้งหลาย
ผู้เห็นอริยสัจ ผู้ถึงเวท รู้แล้วโดยชอบด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
รู้ยิ่งซึ่งความสิ้นไปแห่งชาติ ย่อมไม่มาสู่ภพใหม่ ฯ
๗. กามสูตร
[๒๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบแล้วด้วยกามโยคะ ผู้-
*ประกอบแล้วด้วยภวโยคะ เป็นอาคามี ยังต้องมาสู่ความเป็นอย่างนี้ (คืออัตภาพ
แห่งมนุษย์) ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอริยบุคคลผู้พรากแล้วจากกามโยคะ (แต่)
ยังประกอบด้วยภวโยคะ เป็นอนาคามี ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย พระอริยบุคคลผู้พรากแล้วจากกามโยคะ พรากแล้วจากภวโยคะ เป็น
พระอรหันตขีณาสพ ฯ
สัตว์ทั้งหลายผู้ประกอบแล้วด้วยกามโยคะและภวโยคะ ย่อม
ไปสู่สงสารซึ่งมีปรกติถึงความเกิดและความตาย ส่วนสัตว์
เหล่าใดละกามทั้งหลายได้เด็ดขาด แต่ยังไม่ถึงความสิ้นไป
แห่งอาสวะ ยังประกอบด้วยภวโยคะ สัตว์เหล่านั้นบัณฑิต
กล่าวว่า เป็นพระอนาคามี ส่วนสัตว์เหล่าใด ตัดความสงสัย
ได้แล้ว มีมานะและมีภพใหม่สิ้นแล้ว ถึงความสิ้นไปแห่ง
อาสวะทั้งหลายแล้ว สัตว์เหล่านั้นแลถึงฝั่งแล้วในโลก ฯ
ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ อุปปัตติสูตร-กามสูตร ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 17 ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ติกนิบาต ๕. ปัญจมวรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น