วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

วิเคราะห์ รตนสูตร

วิเคราะห์รตนสูตรในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

รตนสูตรเป็นพระสูตรสำคัญที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 17 ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ สุตตนิบาต 2. จูฬวรรค โดยมีเนื้อหาเน้นการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยและการแผ่เมตตาเพื่อความสวัสดีของสรรพสัตว์ พระสูตรนี้แสดงถึงความสำคัญของพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะในฐานะที่เป็นรัตนะอันประเสริฐยิ่ง ในปริบทพุทธสันติวิธี รตนสูตรสามารถชี้ให้เห็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่เกื้อกูลต่อการสร้างความสงบสุขในสังคมและในจิตใจ

รตนสูตร: สาระสำคัญ

รตนสูตรมีเนื้อหาสำคัญที่สรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ดังนี้:

  1. พุทธรัตนะ: พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ ทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ ธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุคืออมฤตธรรม อันนำพาสัตว์ออกจากกองทุกข์ ไม่มีทรัพย์ใดในโลกเปรียบได้กับพระตถาคต

  2. ธรรมรัตนะ: พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นธรรมอันบริสุทธิ์ มีสมาธิและปัญญาเป็นรากฐาน การดำเนินตามธรรมนี้นำพาผู้ปฏิบัติสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์

  3. สังฆรัตนะ: พระสาวกผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสมบูรณ์ มีคุณธรรมอันสูงส่งและเป็นแบบอย่างแก่การดำเนินชีวิต บุคคลเหล่านี้เป็นที่ควรแก่การสรรเสริญและการถวายทาน

พุทธสันติวิธีในรตนสูตร

พุทธสันติวิธี (Buddhist Method of Peace) ในบริบทของรตนสูตรสามารถประยุกต์ใช้ในหลายด้าน:

  1. การแผ่เมตตา: รตนสูตรเน้นการแผ่เมตตาจิตแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง การแผ่เมตตาเป็นพื้นฐานของการสร้างความปรองดองและลดความขัดแย้งในสังคม

  2. การยึดมั่นในสัจจะ: "ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้" เป็นการย้ำถึงพลังของสัจจะในฐานะที่เป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงในชีวิตและสังคม การรักษาสัจจะนำมาซึ่งความไว้วางใจระหว่างบุคคลและชุมชน

  3. การส่งเสริมคุณธรรมในชุมชน: รตนสูตรยกย่องพระอริยบุคคลที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ การนำหลักคุณธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันช่วยยกระดับจิตใจของบุคคลและสร้างสังคมที่มีความสุขสงบ

  4. ความไม่ประมาท: พระสูตรเน้นให้ภูตและเทวดาทั้งหลายแสดงความไม่ประมาทต่อหน้าที่ การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเป็นหัวใจของการสร้างความสำเร็จและความสงบสุข

การประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน

  1. การแก้ไขความขัดแย้ง: การแผ่เมตตาและยึดมั่นในสัจจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดระหว่างกลุ่มบุคคล การเน้นความเคารพและความปรารถนาดีต่อกันสามารถลดปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวและชุมชน

  2. การพัฒนาจิตใจ: การพิจารณาคุณของพระรัตนตรัยช่วยเสริมสร้างศรัทธาและกำลังใจในการดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

  3. การสร้างสังคมที่ดี: การส่งเสริมให้ปฏิบัติตามหลักธรรมในรตนสูตร เช่น การสรรเสริญคุณธรรมของผู้อื่นและการดำรงชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีผลต่อการสร้างสังคมที่มีคุณภาพ

บทสรุป

รตนสูตรในพระไตรปิฎกแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของพระรัตนตรัยในฐานะรัตนะอันประเสริฐที่สุด หลักธรรมในพระสูตรนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพุทธสันติวิธีเพื่อสร้างความสงบสุขในชีวิตและสังคม การแผ่เมตตา ความยึดมั่นในสัจจะ และการส่งเสริมคุณธรรมเป็นหัวใจสำคัญของแนวทางนี้ ซึ่งยังคงเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันเรื่อง "วิเคราะห์   รตนสูตร     ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  17  ขุททกนิกาย   อิติวุตตกะ สุตตนิบาต  ๒. จูฬวรรค ที่ประกอบด้วย 

 สุตตนิบาต จูฬวรรคที่ ๒

รตนสูตรที่ ๑

             [๓๑๔] ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้ว ในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมม-

                          เทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้ว ในอากาศก็ดี ขอหมู่ภูต

                          ทั้งปวงจงเป็นผู้มีใจดี และขอจงฟังภาษิตโดยเคารพ ดูกร

                          ภูตทั้งปวง เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟัง ขอ

                          จงแผ่เมตตาจิตในหมู่มนุษย์ มนุษย์เหล่าใดนำพลีกรรมไป

                          ทั้งกลางคืนกลางวัน เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจง

                          เป็นผู้ไม่ประมาท รักษามนุษย์เหล่านั้น ทรัพย์เครื่องปลื้มใจ

                          อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอัน

                          ประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคต

                          ไม่มีเลย พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจะ-

                          วาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ พระศากย-

                          มุนีผู้มีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมใดอันเป็นที่สิ้น

                          กิเลส เป็นที่สำรอกกิเลส เป็นอมฤตธรรมอันประณีต

                          ธรรมชาติอะไรๆ อันสมควรด้วยพระธรรมนั้นย่อมไม่มี

                          ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ขอ

                          ความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด

                          ทรงสรรเสริญแล้วซึ่งสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด

                          บัณฑิตทั้งหลายกล่าวสมาธิใด ว่าให้ผลในลำดับสมาธิอื่น

                          เสมอด้วยสมาธินั้นย่อมไม่มี ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอัน

                          ประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์

                          เหล่านี้ บุคคล ๘ จำพวก ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลาย

                          สรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้นควรแก่ทักษิณาทาน เป็น

                          สาวกของพระสุคต ทานที่บุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้น

                          ย่อมมีผลมาก สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วย

                          สัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ พระอริย

                          บุคคลเหล่าใดในศาสนาของพระโคดม ประกอบด้วยดีแล้ว

                          (ด้วยกายประโยคและวจีประโยคอันบริสุทธิ์) มีใจมั่นคง

                          เป็นผู้ไม่มีความห่วงใย (ในกายและชีวิต) พระอริยบุคคล

                          เหล่านั้น บรรลุอรหัตผลที่ควรบรรลุหยั่งลงสู่อมตนิพพาน

                          ได้ซึ่งความดับกิเลส โดยเปล่าเสวยผลอยู่ สังฆรัตนะแม้

                          นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดี

                          จงมีแก่สัตว์เหล่านี้ เสาเขื่อนที่ฝังลงดิน ไม่หวั่นไหว

                          เพราะลมทั้งสี่ทิศ ฉันใด ผู้ใดพิจารณาเห็นอริยสัจทั้งหลาย

                          เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้ไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรม

                          มีอุปมาฉันนั้น สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วย

                          สัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ พระอริย-

                          บุคคลเหล่าใด ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจทั้งหลาย อันพระ-

                          ศาสดาทรงแสดงดีแล้ว ด้วยปัญญาอันลึกซึ้ง พระอริย-

                          บุคคลเหล่านั้น ยังเป็นผู้ประมาทอย่างแรงกล้าอยู่ก็จริง

                          ถึงกระนั้นท่านย่อมไม่ยึดถือเอาภพที่ ๘ สังฆรัตนะแม้นี้เป็น

                          รัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมี

                          แก่สัตว์เหล่านี้ สักกายทิฐิและวิจิกิจฉา หรือแม้สีลัพพต-

                          ปรามาส อันใดอันหนึ่งยังมีอยู่ ธรรมเหล่านั้นอันพระ-

                          อริยบุคคลนั้นละได้แล้ว พร้อมด้วยความถึงพร้อมแห่งการ

                          เห็น (นิพพาน) ทีเดียว อนึ่งพระอริยบุคคลเป็นผู้พ้นแล้ว

                          จากอบายทั้ง ๔ ทั้งไม่ควรเพื่อทำอภิฐานทั้ง ๖ (คือ

                          อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีต) สังฆรัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะ

                          อันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์

                          เหล่านี้ พระอริยบุคคลนั้น ยังทำบาปกรรมด้วยกาย

                          ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็จริง ถึงกระนั้น ท่านก็ไม่ควรเพื่อจะ

                          ปกปิดบาปกรรมอันนั้น ความที่บุคคลผู้มีธรรมเครื่อง

                          นิพพานอันตนเห็นแล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อปกปิดบาปกรรมนั้น

                          พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอัน

                          ประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์

                          เหล่านี้ พุ่มไม้ในป่ามียอดอันบานแล้วในเดือนต้นใน

                          คิมหันตฤดู ฉันใด พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงธรรมอัน

                          ประเสริฐยิ่ง เป็นเครื่องให้ถึงนิพพาน เพื่อประโยชน์

                          เกื้อกูล มีอุปมาฉันนั้น พุทธรัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะอัน

                          ประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์

                          เหล่านี้ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงทราบธรรมอัน

                          ประเสริฐ ทรงประทานธรรมอันประเสริฐ ทรงนำมา

                          ซึ่งธรรมอันประเสริฐ ไม่มีผู้ยิ่งไปกว่า ได้ทรงแสดง

                          ธรรมอันประเสริฐ พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต

                          ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ พระ-

                          อริยบุคคลเหล่าใด ผู้มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป มีกรรม

                          เก่าสิ้นแล้ว ไม่มีกรรมใหม่เครื่องสมภพ พระอริย-

                          บุคคลเหล่านั้นมีพืชอันสิ้นแล้ว มีความพอใจไม่งอกงาม

                          แล้ว เป็นนักปราชญ์ย่อมนิพพาน เหมือนประทีปอัน

                          ดับไปฉะนั้น สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วย

                          สัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ภูตเหล่า

                          ใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่า

                          ใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการ

                          พระพุทธเจ้าผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์ทั้ง

                          หลายบูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ภูต

                          เหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดา

                          เหล่าใด ประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลาย

                          จงนมัสการพระธรรมอันไปแล้วอย่างนั้น อันเทวดาและ

                          มนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

                          ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดา

                          เหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการ

                          พระสงฆ์ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

                          บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ฯ



ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ  รตนสูตร    ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  17  ขุททกนิกาย  อิติวุตตกะ    สุตตนิบาต   ๒. จูฬวรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ราหุลสูตร

       ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ เรื่อง "วิเคราะห์   ราหุลสูตร   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  17  ขุททกนิกาย   อิติว...