วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2566

นายกฯ ปลื้มโครงการ'ข้าวรักษ์โลก BCG Model นาปรัง' ช่วยขับเคลื่อนศก.ไทยตามหลักปรัชญาศก.พอเพียง

 


วันที่ 21 มกราคม 2566  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงความคืบหน้า การดำเนินการโครงการ ข้าวรักษ์โลก BCG Model นาปรัง ช่วยเพิ่มผลผลิตให้ชาวนา ลดต้นทุนการผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์ 3 น (น้ำ นา นวัตกรรม)

โดย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำนาแบบดั้งเดิม ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การกำจัดตอซังข้าว ในขณะที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นรัฐบาลจึงได้สนับสนุนโครงการ ข้าวรักษ์โลก BCG Model นาปรัง เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับชาวนาโดยเฉลี่ยต่อไร่ได้มากกว่า ช่วยลดต้นทุนการผลิต ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์ 3 น (น้ำ นา นวัตกรรม) ซึ่งผลจากการดำเนินการของโครงการในระยะที่ 1 เป็นที่น่าพึงพอใจ

สำหรับโครงการข้าวรักษ์โลกนี้ เป็นต้นแบบการปฏิวัติการทำนาแบบยั่งยืน ตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดจากจากแนวคิดการผลิตข้าวแบบใหม่ ด้วยการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ ลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิต ได้ข้าวคุณภาพสูง เป็นข้าวที่ตรงตามความต้องการของตลาด ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น โดยในระยะที่ 1 รัฐบาลได้ส่งเสริมโครงการฯ ผ่านกองทุนหมู่บ้านฯ นำร่องที่ จังหวัดเชียงราย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวม 20 กองทุน กองทุนละ 1,500,000 บาท บนพื้นที่ของโครงการ รวมกว่า 10,830 ไร่ มีสมาชิกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ 2,674 คน สามารถเพิ่มผลผลิตโดยเฉลี่ย 27.07 % และลดต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ย 38.20 %

โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model นาปรัง ดำเนินมาถึงระยะที่ 2 ที่จะสนับสนุนใน 10 จังหวัด จังหวัดละ 10 โครงการ รวม 100 โครงการ ในภาคเหนือ 4 จังหวัด, ภาคกลาง 3 จังหวัด และภาคใต้อีก 3 จังหวัด โดยได้นำบทเรียนมาจากระยะที่ 1 ด้วย 

ทั้งนี้ นายอนุชา ยังกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมผลการดำเนินงานโครงการฯ ขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน ตลอดจน เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ ที่ช่วยกันขับเคลื่อนโครงการนี้ ซึ่งผลสำเร็จจากโครงการจะช่วยส่งเสริมให้ข้าวไทยสร้างมูลค่าเพิ่มได้ยิ่งกว่าในอดีต นำรายได้เข้าประเทศให้ประสบผลสำเร็จอย่างดี นายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการข้าวรักษ์โลกนี้ จะเป็นต้นแบบในการส่งต่อความสำเร็จสู่สินค้าเกษตรอื่น ๆ เพื่อให้ภาคเกษตรของไทยมีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ตอบโจทย์กระแสผู้บริโภคในโลกยุคปัจจุบัน ผลักดันให้ไทยเป็นแหล่งอาหาร และสินค้าเกษตรคุณภาพสูงในเวทีโลก รวมทั้งมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรมพัฒน์ ร่วม NECTEC ดันแผนพัฒนาแรงงานด้าน AI เป้า 3 ปี 10,000 คน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดันแผนพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมาย 10,000 คน ในระยะ...