“ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” จัดเสวนาประสาไตรรงค์ ให้ความรู้ประชาชนเรื่องวิวัฒนาการระบอบประชาธิปไตยกับการเมืองไทย ระบุสถานการณ์การเมืองไทยถดถอยน่าเป็นห่วง เพราะซื้อเสียงกันมาก พร้อมเปิดตัว “เนเน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รทสช. กทม.เขตบางพลัดบางกอกน้อย หวังทำงานด้านการศึกษาให้คนไทยตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ
วันที่ 29 มกราคม 2566 ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ และที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดการเสวนาประสาไตรรงค์ เพื่อพูดคุยให้ความรู้กับประชาชนและผู้สนใจ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน และในอนาคต โดยมีนายสมัย เจริญช่าง อดีต ส.ส.กทม. พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่า กทม. ร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนา
ดร.ไตรรงค์ กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันนี้การเลือกตั้ง อบต. อบจ. แม่แต่เลือกกำนันยัง ต้องหาเงินมาหลายสิบล้านบาทเพื่อที่จะชนะ เพื่อที่จะให้คนเพียงกลุ่มหนึ่งเข้าสู่อำนาจ เพื่อที่เข้าไปกอบโกยประโยชน์ นี่คือการถดถอยของประชาธิปไตยในประเทศไทยมาถึงจุดต่ำสุด งบประมาณของไทยกว่า 20% กลับเข้าไปอยู่ใน "พุงหมา" แทนที่จะไปสู่การสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างที่แท้จริง
ตอนท้ายของการเสวนา ดร.ไตรรงค์ ได้แนะนำตัวลูกสาว นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี หรือ เนเน่ ซึ่งจะเป็นตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.กทม. เขตบางพลัด บางกอกน้อย โดย นางรัดเกล้ากล่าวว่า แม้จะถูกมองว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการการเมือง แต่จริงๆ แล้วทุกคนก็รู้ว่าตนเติบโตมาจากครอบครัวนักการเมือง ได้เห็นการทำงานของบิดามาโดยตลอด และ ผู้ที่เข้ามาจะต้องพร้อมที่จะทุ่มเทและเสียสละ การเมืองมันไม่ง่าย แต่มันก็ไม่ยากเกินไป
นางรัดเกล้ากล่าวต่อว่า ตนเรียนมาทางสายเทคโนโลยีที่ San Francisco ทำให้ได้ทำงานบริษัทพัฒนาวิดีโอเกมอันดับหนึ่งของโลกที่ Silicon Valley และตัดสินใจบอกกับบิดาว่าจะไม่กลับเมืองไทย ครั้งนั้นทำให้เห็นว่าบิดาน้ำตาคลอ ทั้งที่ไม่เคยเห็นบิดาร้องไห้มาก่อน และบอกกับตนว่าเสียใจ การลงทุนสร้างลูกออกมาเป็นคนเก่งคนดี แต่ลูกกลับไม่เคยคิดที่จะตอบแทนกลับ โดยไม่ได้หวังให้ตอบแทนกลับมาที่ตัวพ่อ แต่อยากให้คิดตอบแทนกลับสู่ประเทศ เพราะทุกคนที่มีโอกาสคิดถึงแต่ตัวเอง ประเทศก็จะไม่มีคนเก่งมาพัฒนา ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของตนที่ตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลือ เพื่อทำตัวเองให้เป็นประโยชน์กับคนไทย กับประเทศไทย
สำหรับความสนใจของตนนั้นจะเป็นเรื่องการศึกษา เพราะที่ผ่านมามีประสบการณ์ในการทำโครงการ ConnextED หรือที่เดิมชื่อโครงการโรงเรียนประชารัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่ม ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นโครงการที่ดีมาก โดยได้ไปดูโรงเรียนขยายโอกาสกว่า 10 โรงเรียนในภาคอีสาน ที่เห็นว่าขาดโอกาสหลายอย่าง ทั้งเรื่องของอุปกรณ์การเรียนการสอน หรืออาหารการกินเนื่องจากครอบครัวยากจน จึงตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานด้านการศึกษาเพื่อสร้างความฝันให้เด็กๆ เป็นจริง รวมทั้งประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติในฐานะ ของ ส.ส.ด้วย
“สำหรับในพื้นที่เขตบางพลัด บางกอกน้อยยังมีปัญหามากมายที่ต้องเร่งแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของคุณภาพชีวิต ตั้งแต่เรื่องผู้ป่วยติดเตียง ไปจนถึงเรื่องเขื่อนฟันหลอ ตั้งแต่เรื่องขยะล้นเมือง ไปจนถึงเรื่องน้ำขังและเน่า หลายๆ เรื่องแก้ไขได้ด้วยการผลักดันให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และชุมชน” นางรัดเกล้ากล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น