วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2566

เครือข่ายภาคประชาชนเสนอนโยบายเรียนพร้อมฝึกงานสร้างรายได้พรรคเพื่อไทย



"ชลน่าน" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับหนังสือเครือข่ายภาคประชาชน  เสนอนโยบาย นักศึกษา ปวช.-ปวส. เรียนพร้อมฝึกงานสร้างรายได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง 

วันที่ 24 ม.ค.2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ประกอบด้วย นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เขตยานนาวา-บางคอแหลม นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เขตธนบุรี และ นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง ให้การต้อนรับและรับมอบหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาชน สำนักความคิด(ประเทศไทย) เครือข่ายลมใหม่ นำโดย นายพิษณุวัฒน์ สิงห์ชัย ประธานเครือข่าย เสนอนโยบายด้านอาชีพเพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ 

นายพิษณุวัฒน์ สิงห์ชัย กล่าวว่าภายหลังที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดนโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันและเงินตอบแทนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทต่อเดือนแล้ว ทางกลุ่มภาคประชาชนที่ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพได้เล็งเห็นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นพรรคที่ทำตามนโยบายได้จริง จึงได้รวบรวมคิดเป็นนโยบายมานำเสนอ ตั้งแต่นโยบายสายอาชีพมีรายได้ คือการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนรับนักศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส. เข้าฝึกงานจริงตามสายอาชีพ ให้เรียนไปทำงานไปมีรายได้ตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป การสนับสนุนสวัสดิการคนวัยเริ่มงาน ด้วยการอุดหนุนค่าอินเทอร์เน็ต รถเมล์ฟรี นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ผู้สูงอายุควรได้โอกาสเข้าอบรมฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ฟรีในสถาบันการศึกษาต่างอีกด้วย  

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายด้านการศึกษาที่ได้ประกาศออกไปแล้วคือ ‘การมีรายได้ เรียนรู้ได้ ตลอดชีวิต’หรือ Lifelong Learning, Lifelong Earning โดยพรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาได้มีงานทำให้เร็วที่สุด ตรงกับสมรรถนะและความสามารถของตัวเองมากที่สุด เพื่อสร้างรายได้ดีที่สุดให้นักศึกษา

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่าข้อเสนอดังกล่าวหลายข้อช่วยเติมนโยบายของเรา เมื่อผมฟังข้อเสนอแล้วผมคิดต่อยอดเห็นภาพได้ทันทีเลยว่า อย่างสายอาชีพ ถ้าเราขอให้บริษัทเอกชนได้รับนักศึกษาได้เข้าไปทำงานจริง ฝึกงานจริง นอกจากนักศึกษาจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาฝึกงานได้ตรงสายอาชีพแล้ว ยังจะมีรายได้แม้จะไม่มาก แต่ก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง เพิ่มรายได้ให้นักศึกษา และรายจ่ายค่าจ้างส่วนนี้บริษัทเอกชนก็อาจจะนำไปหักหรือลดหย่อนภาษีประจำปีได้ จะเกิดประโยชน์ทั้งกับบริษัทและนักศึกษา โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของแผ่นดิน 

“การปรับสายอาชีพให้สามารถเรียนและฝึกงานได้จริงตั้งแต่เรียน นอกจากจะสร้างโอกาสเพิ่มทักษะแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสรายได้ให้นักศึกษา รวมถึงช่วยเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อ ยกระดับแรงงานไทยให้เป็นแรงงานมีฝีมือเพิ่มโอกาสงานทั้งในตลาดงานไทยและตลาดงานโลก”  นายแพทย์ชลน่าน กล่าว

ด้าน นางสาวธีรรัตน์ กล่าวขอบคุณกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้  ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น เราทุกคน ทั้งพรรคการเมือง ทั้งเครือข่ายประชาชนควรได้มีโอกาสคุยกัน ร่วมกันคิดร่วมกันทำ และเราทุกคนนี้ที่จะช่วยผลักดันทุกนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งคนรุ่นใหม่ที่ช่วยกันคิดกันทำแบบนี้คือคนที่พรรคเพื่อไทยเราต้องการ” โฆษกพรรค กล่าว

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...