“พีระพันธุ์” ลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย ร้องเรียนการขอจัดที่ดินทำกินล่าช้า แนะชาวบ้านให้ตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองว่าตรงเงื่อนไขการรับที่ดินหรือไม่ หากถูกต้องให้ทำเอกสารยืนยันต่อไป ชี้นายกฯ เป็นห่วง สั่งการให้ลงมาดูข้อมูลด้วยตัวเอง และให้หาแนวทางแก้ไขด่วน เพราะประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน นายกฯ ก็เดือดร้อนด้วย
เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2566 ที่ จ.สุพรรณบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับตัวแทนประชาชนจำนวน 113 ราย ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินที่ล่าช้าที่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกลุ่มผู้ร้องเรียน
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากรับทราบปัญหาตนได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งภายหลังที่ นายกฯ ทราบข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชน ได้มีบัญชาให้เร่งหาทางแก้ไขปัญหาคลี่คลายความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ไร้ที่ทำกินทั้ง 113 รายให้มีที่ทำกินโดยเร็ว เพราะเกิดความล่าช้ามานาน ทั้งนี้การเดินทางลงพื้นที่เพื่อมาประชุมร่วมกับชาวบ้าน เพราะต้องการที่จะมาดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับทราบข้อมูลจากรายงานของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่ได้เข้ามาชี้แจงเท่านั้น โดยนายกฯ เองก็อยากให้ลงมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีอุปสรรคปัญหาตามที่ได้รับการรายงานจริงหรือไม่ ซึ่งหากได้ข้อมูลเพิ่มเติมตนจะได้นำไปรายงานต่อไปเนื่องจากนายกฯ มีความห่วงใยเรื่องนี้
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนต้องการทราบมีประเด็นหลักๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขอุปสรรค ที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ก็คือเรื่องของคุณสมบัติของผู้ร้อง ที่ต้องตรวจสอบและยืนยันให้ชัดเจนว่า จะต้องเป็นบุคคลในพื้นที่จริง ไม่เคยมีโฉนดที่ดินทำเป็นเป็นของตัวเอง รวมทั้งต้องไม่เคยได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินจากภาครัฐมาก่อน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทั้ง 113 รายได้ยืนยันว่าพวกตนมีคุณสมบัติครบเงื่อนไขดังกล่าว ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนกลับไปทำเอกสารยืนยันว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบ เพื่อนำไปชี้แจงและเป็นหลักฐานในการยืนยันกับหน่วยงานที่ทำการจัดสรรที่ดิน และขอให้ทำเสร็จสิ้นเตรียมพร้อมไว้ภายในวันที่ 23 มกราคม จากนั้นตนจะได้ประสานให้มีการจัดสรรที่ดินให้กับชาวบ้านทั้ง 113 ราย ให้เข้าทำกินตามขั้นตอนโดยเร่งด่วนเพื่อคลายความเดือดร้อนต่อไป
“เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ผมมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเอง จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องไปให้ท่าน ท่านจะได้สั่งการได้ถูก ก็ไม่ให้ใครมาหลอกท่านได้หรอก เมื่อท่านรู้ความเดือดร้อนของประชาชน ท่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านก็เดือดร้อนด้วย แล้วก็ไม่ได้ฟังเจ้าหน้าที่รายงานอย่างเดียวแต่ให้มาตรวจสอบด้วยตัวเอง ท่านรู้ความทุกข์และปัญหาของประชาชนอยู่แล้ว ถ้าไม่รู้ท่านก็คงไม่ให้ผมมา เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ท่านนายกฯ ก็หยิบเรื่องนี้ไปพูดในที่ประชุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็รายงานไปอีกแบบหนึ่ง ท่านก็เลยให้ผมมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป” นายพีระพันธุ์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น