พ่อเมืองลำพูน รวมพลัง "บวร" สานความเกื้อหนุนระหว่างบ้าน วัด และราชการ ร่วมส่งมอบบ้านให้ผู้สูงอายุ สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มเปราะบาง ตอกย้ำจุดหมายสำคัญ คือ กลไกการมีส่วนร่วม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูนได้จัดกิจกรรมอำเภอบูรณาการ “พลัง บวร” ประสานความร่วมมือระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างอย่างยั่งยืน โดยการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มเปราะบาง ส่งมอบบ้านที่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ จำนวน 1 หลัง และมอบเงินช่วยเหลือ ณ หมู่ 6 บ้านศรีเมืองยู้ อำเภอเมืองลำพูน โดยได้รับเมตตาจากพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน และคณะสงฆ์ในเขตอำเภอเมืองลำพูน ประกอบด้วย รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าคณะตำบลเวียงยอง รองเจ้าคณะตำบล พระเถรานุเถระ และหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล โดยมีนายสมาน กองแก้ว ปลัดจังหวัดลำพูน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอเมืองลำพูน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงยอง แกนนำชุมชน คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน ส่วนราชการ ภาคเอกชน และชาวชุมชนบ้านศรีเมืองยู้ ร่วมกิจกรรม
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูนได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้กับสังคมและประชาชนอย่างยั่งยืนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ร่วมกับมหาเถรสมาคมและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนภารกิจงานสาธารณสงเคราะห์ และส่งเสริมให้มหาเถรสมาคมสามารถขับเคลื่อนงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ทั้งการส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย การสาธารณสงเคราะห์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ด้วยการนำหลักการ 4 ประการ คือ 1) สงเคราะห์ 2) เกื้อกูล 3) พัฒนา และ 4) บูรณาการ มาเป็นหลักในการทำงาน ประสานความร่วมมือในรูปแบบพลัง “บวร” คือ บ้าน วัด ราชการ สู่การพึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง และช่วยเหลือเกื้อกูล เสริมสร้างให้คนในสังคมมีจิตใจที่เป็นบุญเป็นกุศล เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ลด ละ การทำบาป และสิ่งที่เป็นอกุศล สิ่งไม่ดีไม่งาม แทนที่ด้วยการเพิ่มพูนการทำความดี ทำบุญ ทำกุศล ช่วยกันดูแลประชาชนให้ทำมาหาเลี้ยงชีพที่จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน ขยายผลไปยังตำบล อำเภอ จังหวัด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
“การทำกิจกรรมดังกล่าวในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย ซึ่งเกิดจากที่อำเภอบูรณาการ “พลัง บวร” ประสานความร่วมมือระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งถึงแม้ว่าวันนี้จะได้ทำการส่งมอบบ้านที่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุเพียงแค่ 1 หลัง พร้อมเงินจำนวน 135,836 บาท โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ทั้งหมดรวมกว่า 20 หลัง ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เกิดการบูรณาการการดูแลกลุ่มเปราะบาง บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ต่อยอดการดำเนินงาน โครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามแนวนโยบาย ลำพูนไม่ลำพัง รวมพลังเพื่อคนลำพูน” นายสันติธรฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวต่ออีกว่า สิ่งสำคัญในการขยายผลไปสู่ในระดับพื้นที่หลังจากนี้ คือ การดำเนินงานด้วยกลไกภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนงานภายใต้กรอบแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่มุ่งเสริมเสาหลักของประเทศชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้เป็นสถาบันหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกับกิจการพระพุทธศาสนาตามพันธกิจคณะสงฆ์ 6 ด้าน คือ การปกครอง การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแพร่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ กำหนดเป้าหมายการพัฒนาให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาชุมชน รวมทั้งสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามร่วมกัน สร้างโอกาส และความเสมอภาค เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างความมั่นคงทางอาหารในทุกครัวเรือนตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี “พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น” พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ส่งเสริมความรู้ทางวิชาการให้ประชาชน เพื่อนำทักษะความรู้มาพัฒนา ปรับใช้ในการดำรงชีวิต มีการดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่การเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) ที่ประชาชนทุกคนมีความมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน
“ขอกราบนมัสการขอบพระคุณพระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ประธานฝ่ายสงฆ์ และคณะสงฆ์ในเขตอำเภอเมืองลำพูน ประกอบด้วย รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าคณะตำบลเวียงยอง รองเจ้าคณะตำบล พระเถรานุเถระที่เป็นตัวแทนภาคศาสนา และขอขอบคุณหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ตลอดจนถึง 7 ภาคีเครือข่ายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดลำพูน ทั้งนี้ ขอฝากท่านนายอำเภอทุกอำเภอ เป็นผู้นำในการผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งที่ดีต่อสังคม (Change for Good) จับมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยลงมือลงแรงไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่เราทุกคนจะได้รับนอกจากจะเป็นความสุขทางใจแล้ว ยังช่วยทำให้คนในชุมชนของเรามีความเข้มแข็งมั่นคง นำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนชาวลำพูนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นายสันติธรฯ กล่าวทิ้งท้าย
#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น