วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562

'พิชัย' ขอสอน 'บิ๊กตู่' ยุค AI แล้ว! ศก.แย่รัฐบาลกลับซื้ออาวุธเพิ่ม





วันที่ 27 ก.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กลับยังคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไม่ปรับลดตาม ซึ่งน่าจะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งค่าเงินบาทของไทยแข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคอยู่แล้ว และจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกที่ทรุดอยู่แล้วให้ทรุดลงมากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลและแบงก์ชาติได้หามาตรการทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ขนาดจีนที่มีเศรษฐกิจดีกว่าไทยยังต้องประกาศลดค่าเงินหยวนล่วงหน้าไปก่อนนานแล้ว ซึ่งถ้ายังบริหารเศรษฐกิจกันแบบนี้ เศรษฐกิจไทยคงฟื้นยาก ขนาด กนง. เองยังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยว่า จะขยายได้เพียง 2.8% เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามที่ตนเคยบอกไว้แล้วว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ไม่ถึง 3% และอาจจะต่ำลงได้อีกถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
          
ขณะที่เศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่ แต่รัฐบาลกลับซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มขึ้นอีก โดยล่าสุดได้มีการตกลงซื้อเฮลิคอปเตอร์จู่โจมจากสหรัฐฯ 8 ลำ ราคา 4,226 ล้านบาท ในกรอบวงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะซื้อรถเกราะสไตรเกอร์ 50 คัน และซื้อเรือรบจากจีน ซึ่งกองทัพเรือต้องออกมาแก้ตัวว่า ไม่ได้มุบมิบซื้อ เหมือนกับจะไม่รับรู้เลยว่า ประชาชนกำลังเดือดร้อนทางเศรษฐกิจกันอย่างมาก หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งไม่ได้มีห้องแอร์ให้ประชาชนได้พักพิงเหมือนที่พลเอกประยุทธ์พูด ซึ่งพูดเหมือนต้องการจะแก้ตัว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมีการไปรื้อเพิงพักของชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนและต้องหนีน้ำมาอาศัยอยู่ตามรายทาง เพื่อต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ ที่ลงพื้นที่ไปตรวจสภาพน้ำท่วม ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง คงต้องสัมผัสความรู้สึกของประชาชนได้มากกว่านี้ อีกทั้งคงไม่กล้าจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่เช่นนี้ เพราะประชาชนคงต้องสงสัยว่า รัฐบาลยังต้องขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่เลย แต่รัฐบาลกลับเอาเงินที่มีไปซื้ออาวุธแบบไม่ตะขิดตะขวงใจเลย
          
"อยากจะขอสอน พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ว่า ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ การใช้จ่ายของรัฐควรต้องคำนึงว่า ใช้จ่ายไปแล้วจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร ซึ่งการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศจะไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของไทยเลย เพราะเงินจะไหลออกไปต่างประเทศหมด ซึ่งควรจะต้องงดเว้นไว้ก่อนในช่วงนี้ โดยหากมีความจำเป็นรัฐบาลควรจัดซื้อในภายหลังเมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น และต้องคำนึงว่า จะซื้อเพื่อไปต่อสู้กับใคร ซึ่งก็ยังไม่เห็น และในอนาคตการสู้รบอาจจะปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี เช่น รูปแบบการใช้โดรนโจมตี เหมือนที่ใช้ทิ้งระเบิดในประเทศซาอุฯ และการใช้หุ่นยนต์ ร่วมกับ Ai โดยอาจจะมีสงครามในรูปแบบใหม่ๆ กันแล้ว ดังนั้นกองทัพสมัยใหม่จะต้องเร่งปรับตัว ซึ่งคงจะไม่ต้องมีการเกณฑ์ทหารกันแล้ว การรับสมัครก็น่าจะเพียงพอ ข้อมูลเหล่านี้พลเอกประยุทธ์น่าจะลองกูเกิลดูบ้าง" นายพิชัย กล่าว
          
นายพิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่า การซื้ออาวุธครั้งนี้ เพียงเพื่อต้องการเอาใจสหรัฐฯ ใช่หรือไม่ พร้อมกับมีรูปถ่ายพร้อมประธานาธิบดีทรัมป์ และประชาชนยังสงสัยเพิ่มอีกว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกสภาผู้แทนสหรัฐฯ นำเข้าสู่ขบวนการถอดถอนเพราะลุแก่อำนาจ ในการขอให้ผู้นำยูเครนถล่มนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีโอบามา ที่ประกาศเป็นคู่แข่งลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กับประธานาธิบดีทรัมป์ 
          
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลากว่า 5 ปี ที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างมากมายมาโดยตลอด ดังนั้นจึงอยากให้คนรุ่นใหม่ของไทยได้เอาแบบอย่าง เด็กหญิงนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน เกรตา ธันเบิร์ก ที่ไปพูดที่ยูเอ็น และอยากให้ตั้งคำถามไปยังพลเอกประยุทธ์ว่า กล้าดีอย่างไร ที่จะส่งต่อประเทศเละแบบนี้ ถึงกับเอาอนาคตของคนรุ่นใหม่ไทยไปทำลายอย่างป่นปี้ ทั้งประเทศที่กำลังล้าหลังตามโลกไม่ทัน ถึงขนาดที่พลเอกประยุทธ์ ภูมิใจเพียงเพราะใช้กูเกิลเป็น ทั้งเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาโดยตลอด และยังจะย่ำแย่ต่อไปอีก ทั้งสังคมที่เสื่อมทรามขนาดคนมีประวัติเกี่ยวข้องยาเสพติดยังเป็นรัฐมนตรีได้ และทั้งการเมืองที่ล้มเหลวจากรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้เพื่อพวกตนเองไม่ใช่เพื่อประชาชน ซึ่งน่าจะต้องเป็นคนรุ่นใหม่แล้วที่จะต้องตัดสินใจในอนาคตของประเทศนี้ และคงเป็นที่มาของ แฮชแท็ก #PrayuthGetOut ที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"พวงเพ็ชร" มาแล้วมอบสำนักพุทธจับมือ "พม." ตรวจสอบ พ่อ-แม่ ‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ หากเข้าข่ายหลอกลวง ปชช. สั่งฟันทันที

เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาส...