วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

ชาวพุทธไทยในยุโรปตื่น! อบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ ช่วย"แผ่-ป้อง"พุทธธรรม




ชาวพุทธไทยในยุโรปตื่นตัวช่วยเผยแผ่และปกป้องพระพุทธศาสนาเข้าอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ที่วัดไทยนอร์เวย์

เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่าน พระราชปริยัติกวี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่แทนในการเปิดการอบรม “ธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธในต่างประเทศ”  ที่วัดไทยนอร์เวย์ เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดไทยนอร์เวย์ สหภาพรพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป (สธย) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และสมาคมชาวพุทธไทยในนอร์เวย์ 

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการจัดการอบรมชาวพุทธคฤหัสถ์ ให้ทำหน้าที่เป็นธรรมทูตเพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยพระธรรมทูตไทยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ โดยมีชาวพุทธจำนวนกว่า 328 คน ใน 11 ประเทศ คือ นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษอเมริกา ออสเตรีย สวีเดนเยอรมันนี สวิสเซอร์แลนด์และไทย สนใจเข้าร่วมอย่างล้นหลาม 

การอบรมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการให้ความรู้ในเรื่องพระพุทธศาสนา การทำหน้าที่ธรรมทูตในรูปแบบคฤหัสถ์แล้ว ยังเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจชาวพุทธที่ช่วยดูแลพระสงฆ์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อุปัฏฐากพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากประเทศไทยเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดน ซึ่งพระสงฆ์หรือพระธรรมทูตที่ออกเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นั้นล้วนเป็นที่พึ่งทางใจของชาวไทยในแต่ละประเทศ ซึ่งในแต่ละประเทศที่พระสงฆ์ไปอยู่และสร้างวัดขึ้นในประเทศนั้นๆ ส่วนใหญ่จะมีชาวพุทธไทยอาศัยอยู่และก็อาราธนาพระสงฆ์มาจากประเทศไทย เพื่อให้พระสงฆ์ได้เป็นที่พึ่งทางใจในยามอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน

พระโสภณวชิราภรณ์  กล่าวว่า “มหาเถรสมรคม (มส) ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ดำเนินการจัดอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2538 จนถึงปัจจุบัน ได้อบรมไปแล้ว 25 รุ่น มีพระธรรมทูตที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว ออกไปปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในระดับหนึ่ง แต่การออกไปปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตเหล่านั้น ล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าคฤหัสถ์ในประเทศนั้นๆ ทำให้พระสงฆ์สามารถอยู่อาศัยสร้างวัด นำพุทธศาสนิกชนในการศึกษา เรียนรู้และปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ได้ เนื้องจากพระสงฆ์ไทยนั้น การเป็นอยู่ล้วนต้องได้รับการอุปัฏฐากจากคฤหัสถ์ทั้งสิ้น กล่าวคือมีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยคฤหัสถ์นั่นเอง”

พระโสภณวชิราภรณ์ กล่าวอีกว่า “การจัดบรมธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธในต่างประเทศ ครั้งนี้ เบื้องต้นกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคฤหัสถ์ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโปทั้งชายและหญิงไว้ 200 คน โดยจัดฝึกอบรมระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน 2562 ณ วัดไทยนอร์เวย์ เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ แต่เมื่อประกาศรับสมัครออกไป ปรากฏว่าชาวพุทธไทยทั่วโลกต่างให้ความสนใจสมัครเข้ารับการอบรม กว่า 318 คน นอกจากเป็นชาวไทยแล้วยังมีชาวต่างชาติที่นับถือพระพุทศาสนาให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ด้วยจำนวนมาก ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมนอกจากตัองการจะทำหน้าที่เป็นธรรมทูตคฤหัสถ์ ช่วยพระสงฆ์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว เมื่อมีการแบ่งกลุ่มกันเพื่อระดมความคิดในการช่วยพระสงฆ์เผยแผ่แล้ว ชาวพุทธเหล่านั้นต่างก็มองเห็นภัยที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในประเทศไทยแล้วเกิดความเศร้าใจ ซึ่งแต่ละคนต่างก็ปฏิญาณตนว่า พร้อมจะช่วยทำนุบำรุงส่งเสริมและปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต และต่างก็กล่าวว่า พระพุทธศาสนาถือว่าเป็นศาสนาแห่งสันติภาพและนำความสงบสันติมาสู่มวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง จึงควรที่จะช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่โลกตลอดไป และถือเป็น นอร์เวย์โมเดล ที่จะจัดในรุ่นต่อๆ ไป โดยในปี 2563 วัดพุทธวิหาร อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รับที่จะเป็นเจ้าภาพจัดในรุ่นที่ 2 “

ด้านพระวิมลศาสนวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยนอร์เวย์ รองประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในสหภาพยุโรป กล่าวว่า “ถ้าจะกล่าวโดยสัจจริงแล้ว การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศของพระสงฆ์ไทย จะไม่สามารถเผยแผ่ได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่มีคฤหัสถ์ให้ความช่วยเหลือ และที่สำคัญ ชาวพุทธไทยเมื่อเดินทางไปทำงานในต่างแดน แต่ละคนก็นำความเป็นพุทธและศาสนาพุทธมาเผยแผ่ด้วย และพระสงฆ์เองการที่จะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศใดได้นั้น ก็ตัองมีชาวพุทธอาราธนาให้ไป จึงสามารถไปได้ เมื่อไปแล้ว การลงหลักปักฐาน การสร้างวัด ชีวิต ความเป็นอยู่ในแต่ละวันของพระสงฆ์ก็ล้วนได้รับการเกื้อหนุนอุปัฏฐาก อุปถัมภ์ ดูแลทุกอย่างจากคฤหัสถ์ทั้งสิ้น ในฐานะที่อาตมภาพเดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันก็มองเห็นว่า พระพุทธศาสนาในต่างประเทศทุกวันนี้ มีความเจริญรุ่งเรืองได้ก็เพราะคฤหัสถ์ การจัดอบรมพระธรรมทูตทึ่ผ่านมาก็ได้แต่พระสงฆ์ แต่พระสงฆ์เองก็ทำหน้าที่เผยแผ่ได้อย่างจำกัด ถ้าจะเทียบกับคฤหัสถ์แล้วยังถือว่าประสบผลสำเร็จน้อยกว่า และที่สำคัญ คฤหัสถ์เหล่านี้แหละที่สามารถชักชวนชาวต่างชาติ ชาวท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ ให้หันมานับถือและปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาได้มากที่สุด”
  
“อาตมาขอยกย่องว่าคฤหัสถ์ชาวพุทธในต่างประเทศมีความสามารถจริงๆ ที่สามารถชักชวนชาวต่างชาติ ชาวทัองถิ่นที่นับถือศาสนาอื่นให้หันมานับถือพระพุทธศาสนาและถือว่าเป็นผู้มีความสามารถจริงๆ เมื่อนำชาวต่างชาติเข้ามาวัด เวลามีกิจกรรมต่างๆ ในวัดนั้นๆ หรือกิจกรรมที่จัดขึ้นล้วนแต่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกันเป็นหลัก ชาวต่างชาติที่เข้ามาวัดตามที่คนไทยชักชวน เขาฟังภาษาไทยไม่ออกได้แต่นั่งมองและปฏิบัติตามคำบอกของผู้ชักชวนและก็อดทนนั่งฟัง ร่วมปฏิบัติได้เป็นวันๆ โดยไม่ปริปากบ่นเลย จะให้กราบก็กราบให้ไหว้ก็ไหว้ นอกจากนี้ชาวต่างชาติเหล่านั้นเมื่อเข้ามาวัดเป็นประจำก็ทำให้เกิดความซาบซึ้งในวิถีปฏิบัติของชาวพุทธ หันมานับถือพระพระพุทธศาสนา และเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งในการชักชวนญาติพี่น้องให้เข้ามาวัดด้วย ในช่วงแรกๆ ที่มาปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูต ชาวต่างชาติมักจะมองว่าเป็นศาสนาแปลกๆ และต่างก็มองว่าจะมาทำอะไรให้ประเทศเขาวุ่นวายหรือไม่ แต่เมื่อชาวพุทธไทยชักชวนเขาเข้ามาและฝึกปฏิบัติตามแล้ว แต่ละคนก็กลับความคิด กลับมามองและเข้าใจว่า พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ไม่มีพิษภัยต่อวิถีชวิตเขาและสามารถเข้ากับชีวิตเขาได้ ดังจะเห็นว่า มีชาวต่างชาติสนใจเข้าร่วมการอบรมครั้งนี้จำนวนมาก การอบรมครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งสำคัญที่เราได้มีโอกาสยกย่องเชิดชูและให้กำลังใจแก่คฤหัสถ์ให้ทำหน้าที่ธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจต่อไปและถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามและสมกับที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะทำโครงการนี้ให้ได้และก็ขอขอบคุณวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ให้โอกาสและให้ความสำคัญจนสามารถจัดโครงการนี้และก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเครือข่ายต่างๆ จนสำเร็จดังกล่าว” พระวิมลศาสนวิเทศ กล่าว

นางกมลทิพย์ อีแวนส์ จากประเทศอังกฤษหนึ่งในคฤหัสถ์ที่เข้ารับการอบรม กล่าวว่า “เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธ ก็สนใจและสมัครเข้ารับการอบรมทันที โดยเดินทางมาจากประเทศอังกฤษเพื่ออบรมในครั้งนี้ โดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง และเมื่อเข้าอบรมแล้วก็รู้สึกคุ้มค่ากับที่ได้เดินทางมาและก็พร้อมจะทำหน้าที่ธรรมทูตคฤหัสถ์ ช่วยพระสงฆ์เผยแผ่และช่วยปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาอย่างเต็มความสามารถ ตนเองในฐานะที่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธศาสนา เมื่อมาอยู่อาศัยในต่างแดนก็ไม่เคยละทิ้งความเป็นชาวพุทธ และเห็นว่า ปัจจุบันชาวต่างชาติให้ความสนใจพระพุทธศาสนามากโดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน การใช้สติในการดำรงชีวิต เมื่อมีโอกาสแต่ละครั้งในการรับเชิญไปร่วมงานวิชาการหรือเป็นวิทยากร ก็จะถือโอกาสนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปกล่าวอธิบายให้ชาวต่างชาติได้ฟังอยู่เสมอๆ และเห็นว่าเขาให้ความสนใจพระพุทธศาสนาอย่างมาก เพราะพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งวิถีชีวิตอย่างแท้จริง จึงขอให้ชาวพุทธจงภาคภูมิในความเป็นพุทธและช่วยกันเผยแผ่ ทำนุบำรุง ปกป้องพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไปและจะทำหน้าทึ่ของความเป็นธรรมทูตคฤหัสถ์ตลอดไป”


อนึ่ง พระโสภณวชิราภรณ์ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดป้าย ศูนย์ปฏิบัติพระธรรมทูต ประจำภาคพื้นยุโรป ณ วัดไทยนอร์เวย์ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการประสานงานและศูนย์ปฏิบัติงานของพระธรรมทูตไทยที่เดินทางเข้าไปปฏิบัติงานดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...