เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2562 น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขต 6 กทม. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เรื่องของฝุ่นละออง ยังคงก่อปัญหาด้านสภาวะมลพิษทางอากาศในพื้นที่ กทม.อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ แม้ที่ผ่านมาจะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้วในบางส่วน แต่ปริมาณของฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศ ยังคงเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรเฝ้าระวังและเตรียมมาตรการป้องกัน
ดังนั้นตนจึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาล เร่งดำเนินการ เตรียมความพร้อมให้เร็วที่สุด ก่อนที่ ปริมาณฝุ่นจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ทั้งเรื่องของอุปกรณ์ในการป้องกันต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย แผ่นกรองอากาศ และเครื่องฟอกอากาศ รัฐบาลควรเร่งเตรียมให้พร้อมกับความต้องการของประชาชน
“วันนี้แม้ปริมาณของฝุ่น PM 2.5 ยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ แต่อย่ารอให้ถึงวันนั้น วันที่ทุกอย่างขึ้นราคาหลายสิบเท่า วันที่แม้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้เพราะของขาดตลาด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฝุ่นในจุดที่สังเกตได้ง่าย เช่น ตามสี่แยกไฟแดง เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ที่สำคัญต้องเร่งจัดทำสถานที่ Safe Zone ในทุกจังหวัด เพื่อช่วยเหลือประชาชน และเพื่อเป็นที่พักของกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กๆ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ” น.ส.ภาดาท์ กล่าว
นอกจากนี้รัฐบาลควรเตรียมความพร้อมเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิธีการป้องกัน การดูแลตัวเองและคนในครอบครัว โดยหากเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ อย่างน้อยแม้เราจะชนะฝุ่นไม่ได้ 100% แต่เชื่อว่าสามารถทำให้ภาวะวิกฤติจากมลพิษทางอากาศคลี่คลายลงได้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นประชาชนสามารถปฏิบัติตนในการป้องกันตนเองได้ด้วยวิธีการ 1. พกพาหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองติดตัวอยู่เสมอและสวมใส่เมื่ออยู่กลางแจ้ง 2.หลีกเลี่ยงกิจกรรมการแจ้ง 3.หากรู้สึกว่าเริ่มหายใจไม่สะดวก ไอ ระคายคอ แสบตา หรือคันบริเวณผิวหนัง ควรรีบพบแพทย์ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด ควรเพิ่มความระมัดระวังและดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ 4.ดื่มน้ำมากๆ เพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น