เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวโดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมการออกระเบียบฉบับใหม่ของกรมราชทัณฑ์ ที่ส่งผลดีในหลายมิติให้กับประเทศโดยเฉพาะผู้ต้องขังที่อาจได้รับโทษมาจากเหตุการณ์การเมืองที่ไม่เป็นธรรม ต้องเรียนความเป็นมาเป็นไปอย่างนี้ครับว่าระเบียบราชทัณฑ์มีความพยายามที่จะออกระเบียบว่าด้วยให้นักโทษติดคุกอยู่ในสถานที่จำเพาะ มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
"เรื่องมีอยู่ว่าตอนที่ผมเป็นที่ปรึกษา กมธ.ศาสนาฯ ในสมัยที่รัฐบาลที่ผ่านมา มีวาระเข้าในคณะอนุกรรมาธิการด้านพระพุทธศาสนาฯ มีประเด็นเรื่องการที่กักขังพระภิกษุ ซึ่งต้องบอกว่าขณะนั้นเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมากคือประเด็นของท่านเจ้าคุณพระพรหมดิลก วัดสามพระยา (ภายหลังพระราชกิจจานุเบกษาประกาศได้รับคืนสมณศักดิ์และถือว่าไม่เคยรับโทษมาก่อน) ทำให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาถึงความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจรัฐประหารในการกระทำที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้พระสงฆ์เข้าคุกด้วย มาตรา 29 ,30 แห่งพรบ.สงฆ์" นายณพลเดช กล่าวและว่า
ทาง กมธ. ให้มอบให้อนุฯ กมธ. ศาสนาฯ ประชุมในวันพุธที่ 15 ก.ค. 2563 (3 ปีที่ผ่านมา) ให้ผู้แทนกระทรวงยุติธรรมเข้ามาชี้แจงสาระสำคัญอยู่ในบันทึกหน้าที่ 4 สรุปใจความว่า “กรมราชทัณฑ์มีนโยบายในการกำหนดสถานที่คุมขังแทนการจำคุกในเรือนจำโดยกำหนดสถานที่ต่างๆ เช่น สถานที่เอกชน สถานศึกษา หรือวัด วัดเป็นต้น” ในสมัยนั้นคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 2 เดือนที่จะออกประกาศกฎกระทรวงฯด้วยซ้ำ หลักฐานนี้เป็นมติของอนุ กมธ. ที่มีคำสั่งให้เปิดเผยได้ จึงมีประกาศในเว็บไซต์ ของรัฐสภาที่ https://www.parliament.go.th/ewtcommittee/ewt/25_culture_sub2/ewt_dl_link.php?nid=336&filename=index
แต่เข้าใจว่าด้วยระบบที่ต้องตรวจสอบกันหลายชั้น ทำให้ประกาศกฎกระทรวงในการอนุญาตให้ผู้ต้องขัง ใช้สถานที่เอกชน สถานศึกษา หรือวัด เกิดความเนิ่นช้าออกมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน ทำให้ผู้ไม่หวังดีเอาช่องนี้อ้างว่าระเบียบดังกล่าว เอื้อประโยชน์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผมจึงขอนำเอาหลักฐานชิ้นนี้ที่ชี้ชัดว่าระเบียบราชทัณฑ์ เตรียมเพื่อที่จะออกมาบังคับใช้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้วล่ะครับ อย่างไรก็ตามก็ขออนุโมทนาเพราะระเบียบนี้มีผลกับพระสงฆ์ที่จะมีโอกาสจำคุกได้ที่วัดด้วยเช่นกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น