วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

'พิชัย'เตือน'สมคิด'ทำนายกฯหลังเลือกตั้งทำลายเชื่อมั่น!'


'พิชัย'เตือน'สมคิด'อย่าทำลายความเชื่อมั่น ที่บอกนายกฯ หลังเลือกตั้งหน้าคล้ายคนเดิม ชี้ ส่งออก ท่องเที่ยว ตกหนัก ทำจีดีพีปลายปีทรุด  เย้ย อันดับทำธุรกิจตกอีก 

วันที่ 2 พ.ย.2561 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ออกมาประกาศต่อหน้า ซีอีโอ บริษัทต่างประเทศกว่า 400 คน ในงาน Forbes Global CEO conference  ว่านายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหน้าตาคล้ายคนเดิม เพราะอาจจะยิ่งทำลายความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศที่มีต่ำอยู่แล้วให้ยิ่งต่ำลงไปอีก เพราะตลอด 4 ปีกว่าที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่านักลงทุนต่างประเทศไม่มีความมั่นใจในรัฐบาลนี้ จากยอดการลงทุนจากต่างประเทศที่หดหายไปมาก ยิ่งบอกเหมือนว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะไม่เปลี่ยนจากเดิมก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจหดหายไปอีก 


และการที่นายสมคิดประกาศว่าประเทศไทยไม่ใช่คนป่วยของเอเชียอีกต่อไปแล้ว อาจจะเป็นประกาศที่เร็วเกินไป เพราะ 4 ปีกว่าที่ผ่านมาไทยโตได้ต่ำมากเฉลี่ยเพียง 2% กว่าเท่านั้น พึ่งจะมาฟื้นได้ปีนี้ที่ 4% กว่า ซึ่งก็ยังโตต่ำที่สุดในอาเซียน อีกทั้งมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจไทยจะทรุดลงต่ออีกแล้ว จากการส่งออกที่ติดลบในเดือนกันยายนที่ 5.2 % และมีแนวโน้มที่การส่งออกจะติดลบต่อถึงสิ้นปีจนถึงต้นปีหน้า ประกอบกับการที่ปริมาณนักท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ลดลงถึง - 80.61% ในเดือน ตุลาคม และ ก่อนหน้านี้ก็ติดลบมา 3 เดือนติดกันแล้วที่ -22.17%, -36.49% และ - 39.20% ซึ่งเป็นผลจากคลิปที่นักท่องเที่ยวจีนถูกเจ้าหน้าที่ ตม. ตบหน้าข้อหาที่ไม่ยอมทิป ได้ถูกกระจายไปทั่วประเทศจีน ซ้ำเติมกับการสื่อสารที่ผิดพลาดและการจัดการเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตอย่างไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล 


อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มถดถอยจากสงครามการค้ากับสหรัฐ ดังนั้น จีดีพี ของไทยในครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะออกมาต่ำลง ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงจีดีพีในปีหน้าด้วย หากรัฐบาลยังเป็นรัฐบาลเดิมที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นการฟื้นเพียงชั่วคราวที่เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นเท่านั้น และโตจากฐานเดิมที่ต่ำมากติดต่อกันมา 4 ปีแล้ว และเริ่มที่จะปักหัวลงอีก ไม่ได้มาจากการฝีมือของรัฐบาลแต่อย่างไร เพราะขนาดอันดับความสะดวกในการทำธุรกิจที่ปีที่แล้วที่รัฐบาลโม้ว่าดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 26 หรือดีขึ้นมา 20 อันดับจากอันดับ 46 แต่ยังต่ำกว่าก่อนปฏิวัติที่อันดับที่ 18 มาก โดยอันดับได้ตกหนักหลังการปฏิวัติ  และรัฐบาลได้ประกาศว่าปีนี้จะต้องดีขึ้นเท่าก่อนปฏิวัติ แต่กลับทรุดตกลงไปอยู่ที่อันดับที่ 27 ยิ่งตอกย้ำความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐบาลนี้ 


และแสดงให้เห็นว่าหลังการปฏิวัติการทำธุรกิจในประเทศไทยยากลำบากขึ้นมาก ดังนั้นจึงอยากขอให้ประชาชนได้ช่วยพิจารณาว่า รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลนี้สร้างไว้หลายด้านทั้ง การลงทุน การส่งออก การท่องเที่ยว ที่ลดลงหนัก การกระจายรายได้ที่รวยกระจุก จนกระจาย  อีกทั้งการบริหารจัดการที่มีปัญหามาโดยตลอด หากเป็นรัฐบาลชุดเดิมคงไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้และเศรษฐกิจอาจทรุดหนักลงอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"เสริมดวงรับปีใหม่ 2567: เหรียญมงคลหลวงปู่ดุสิต วัดไผ่แขก"

รายงานข่าวจาก วัดไผ่แขก อ.เมืองสุพรรบุรี แจ้งว่าเมื่อวันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2567ผ่านมา ทางวัดโดยทีมงานพี่เสือนำโดยป้อม สกลนคร และ นิภัทร์...