วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562
'นคร'ติง'บิ๊กตู่'ลงพื้นที่ใช้งบรปภ.อื้อ พท.แนะปชช.ร่วมตรวจสอบรัฐ 'สมศักดิ์'ยันพปชร.ไม่มีขัดแย้ง 'พิชัย'ชี้ต้องแก้รธน.ถึงแก้ศก.ได้
วันที่ 7 กันยายน 2562 นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นการใช้งบประมาณมหาศาลในการดูแลรักษาความปลอดภัย ใช้ทั้งกำลัง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน มีการตรวจค้นสัมภาระประชาชน ทุกคนที่ไปร่วมให้การต้องรับพลเอกประยุทธ์ สิ่งเหล่านี้คือการแสดงพฤติกรรมหวาดกลัวประชาชน
พท.แนะปชช.ร่วมตรวจสอบรัฐผ่านกมธ.ฝ่ายค้าน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการกำหนดหน้าที่และจำนวนของคณะกรรมาธิการในแต่ละประเภทจากพรรคการเมือง และสัดส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมีทั้งหมด 35 คณะ และเมื่อดูจากภาวะเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำจะเห็นได้ว่า ซีกฝ่ายค้านจะมีจำนวนคณะกรรมาธิการมากกว่ารัฐบาลโดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีทั้งหมดถึง 18 คณะ ส่วนรัฐบาลจะมีเพียง 17 คณะซึ่งถือว่าเห็นได้ไม่บ่อยนัก แต่ในปัจจุบันเป็นภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ห่างกันไม่ถึง5เสียงย่อมเกิดขึ้นได้ ยิ่งพรรคเล็กทยอยลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลก็ยิ่งทำให้เห็นความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลมากยิ่งขึ้นถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าพรรคฝ่ายค้านจะใช้คณะกมธ.ที่ติดตามตรวจสอบรัฐบาลอาทิคณะกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือ ปปช.คณะกมธ.กฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนฯกมธ.ศาลองค์กรอิสระฯ กมธ.ศึกษา กมธ.พลังงานในครั้งนี้ก็อยู่กับฝ่ายค้าน นอกจากนี้ยังมีคณะกมธ.ติดตามงบประมาณและคณะกมธ.ที่สำคัญที่จะใช้ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้เป็นประโยชน์ต่อภาษีอากรของประชาชนให้ได้มากที่สุด แม้ว่า รัฐบาลจะมีกมธ.ที่สอดรับกับรัฐมนตรีของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลแต่พรรคฝ่ายค้านจะให้ ผู้แทนฯที่มีประสบการณ์สูงเข้าไปอยู่ในกรธ.ซีกรัฐบาลเพื่อทำงานในการตรวจสอบทุกกระทรวงทุกรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าตำแหน่งประธานกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย พรรคได้มีวิธีการคัดสรรที่เหมาะสมและมีศักยภาพในการทำงาน โดยเน้นเป้าหมายหลักในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนว่านอกจากสถานีตำรวจ ที่ท่านจะไปแจ้งความในคดีความต่างๆแล้วท่านสามารถใช้ช่องทางคณะกรรมาธิการทั้ง 35 ในคณะที่ตรงกับความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะเป็นการประพฤติมิชอบ หรือการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ในทุกๆเรื่องโดยอำนาจและหน้าที่ของคณะกมธ แต่ละคณะจะคล้ายกับการทำงานของตำรวจและอัยการซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่งเช่นประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือมีเบาะแสเรื่องใดก็สามารถร้องเรียนหรือส่งข้อมูลให้ตรงกับคณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะได้ที่รัฐสภา ส่วนการลงมติรับรอง กมธ.อย่างเป็นทางการในรัฐสภานั้นคาดว่าจะลงมติได้ทั้งหมดในวันพุธหรือพฤหัสนี้ ก่อนปิดสมัยประชุม นายจิรายุกล่าว
'สมศักดิ์"ยันพปชร.ไม่มีขัดแย้งหาคนนั่งปธ.กมธ.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกประธานคณะกรรมาธิการ 35 คณะของสภาผู้แทนราษฎรว่า การเลือกประธานกมธ.ในแต่ละครั้งไม่ใช่ง่าย ที่ผ่านมาในแต่ละสมัยบางครั้งใช้เวลาเกิน 1 สมัยประชุม ยังไม่เสร็จเลย เพราะแต่ละพรรคการเมืองเสนอในส่วนที่ตัวเองถนัด แต่บางครั้งปัญหาที่พี่น้องประชาชนพบ แล้วพรรคการเมืองมองว่าสามารถเรียกคะแนนได้จะเสนอตัวเข้าไปในกมธ.นั้นๆ ครั้งนี้ก็เชื่อว่าจะเป็นเหมือนทุกสมัย ดังนั้นคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะลงตัว แต่อาจจะเป็นผลดีส่วนหนึ่ง เพราะขณะนี้ห้องประชุมกมธ.ยังไม่มี ทำให้ยังพอมีเวลาถกเถียงและจัดสรรกันไปได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องกดดันอะไรมากมาย ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่ได้จัดสรร 8 ประธานกมธ.ก็ยังไม่ลงตัวนัก ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำรับบาลคงต้องรีบเคลียร์ให้จบ และเชื่อว่าจะลงตัวและไม่มีความขัดแย้งกันในพรรคแน่นอน
เมื่อถามว่าสเป็คประธานกมธ.ต้องเป็นอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องเป็นคนที่มีศักยภาพหลายอย่าง ความรู้ความสามารถต้องตรงกับหน้าที่ตรงนั้น อาจมีพื้นฐานมาอยู่แล้ว รวมทั้งต้องขยันและตั้งใจเป็นหลัก เสียสละเวลาในการทำงานมากมาย และต้องไม่ใช่เป็นเพื่อหวังสร้างเครดิสให้ตัวเอง จากนั้นต้องเติมที่ปรึกษาที่เข้มแข็ง ถึงเวลาต้องจบได้ ในหลายสิ่งหลายอย่างเวลาจะเป็นเครื่องช่วยแก้ปัญหาให้ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม มีงานในส่วนของกมธ.ถึง 3 คณะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามงานกันต่อไปด้วย
'พิชัย'ชี้ไม่แก้รัฐธรรมนูญจะแก้ปํญหาเศรษฐกิจไม่ได้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้เรียกร้องให้ฝ่ายค้านยื่นร้องต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของพลเอกประยุทธ เพราะแจกเงินสะเปะสะปะจำนวนมาก ซึ่งไม่น่าจะตรงกับยุทธศาสตร์ชาติและรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้แจกเงินอีลุ่ยฉุยแฉก และยังไม่บอกที่มาของแหล่งเงินว่าเอามาจากไหน คุ้มค่าหรือไม่ อีกทั้งรัฐบาลยังบริหารเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่ำกว่า 5% ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติกำหนด
ทั้งนี้เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมีแต่คนของรัฐบาล ซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสั่งให้พลเอกประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับฝั่งตรงข้ามเท่านั้น หากฝ่ายตรงข้ามชนะการเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการร่างรัฐธรรมนูญนี้ก็เพื่อจุดประสงค์เฉพาะไม่ได้ร่างมาเพื่อพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงควรต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเพื่อให้ประเทศพัฒนาได้ และเชื่อว่าหากไม่แก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หนังสือ: หลักสูตรนักธรรมตรียุคเอไอ
คิดเขียนโดยดร.สำราญ สมพงษ์ - แชทจีพีที (เป็นกรณีศึกษา) สารบัญ 1. คำนำ ความสำคัญของการศึกษานักธรรมในสังคมไทย ความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลแ...
-
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(...
-
วิจารณ์สนั่นหลักสูตรบาลีป.ธ.1-2 ถึงป.ธ. 9 เรียนพระไตรปิฎก 149 หน้า "เจ้าคุณหรรษา" ยกสามเณร 2 รูป หนึ่งจบ ป.ธ. 9 อายุ 17 ปี หนึ่งจบ...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น