วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2562

'เทวัญ'แนะ'อสมท' ปรับตัวรับ Disruption ร่วมป้อง Fake News พีอาร์งานรัฐ EEC



เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 ที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบแนวทางการทำงานให้กับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่ก่อตั้งมาแล้ว 61 ปี เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นบริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นองค์กรคุณภาพในธุรกิจสื่อ มีศักยภาพและความพร้อมในการแข่งขันธุรกิจกิจการที่เกี่ยวกับสื่อสารมวลชนในปัจจุบัน ซึ่งวันนี้กิจการสื่อสารมวลชนมีการแข่งขันกันมากในระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง 

ขณะเดียวกันก็ต้องแข่งขันกับตัวเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (Disruptive Technology) ที่รุนแรงและรวดเร็ว และพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากการเติบโตของโลกออนไลน์ และโซเชียล จึงอยากมอบแนวทางการทำงาน เพื่อให้หน่วยงานประสบความสำเร็จตามภารกิจ และมีส่วนสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศ และความอยู่ดีกินดีของประชน ดังนี้

1.สร้างความตระหนักรู้ เผยแพร่ และปลูกฝัง ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน 

2.เกี่ยวกับโครงการสำคัญต่างๆของรัฐบาล เช่น โครงการ EEC ที่ประกอบด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง การขยายสนามบินอู่ตะเภา การขยายท่าเรือน้ำลึกที่แหลมฉบัง และมาบตาพุด โครงการลงทุนระบบเทคโนโลยีสื่อสาร 5G  โครงการพัฒนาชายฝั่งด้านการท่องเที่ยว โครงการพัฒนา SME ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นโครงการที่ดี หากมีการเผยแพร่ข้องมูลข่าวสารให้กับประชาชนทั้งในและต่างประเทศก็จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยว ก็จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการจ้างงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจนเพื่อให้กับพี่น้องประชาชนเข้าใจในข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ป้องกันปัญหาเรื่องของ Fake News ที่มักปรากฎใน Social Network และ Online ต่างๆ ที่สร้างความสับสนในสังคม

3.ต้องปรับตัวในยุค Disruptive Technology ซึ่ง Platform ของการทำธุรกิจเปลี่ยนไปสู่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในธุรกิจ Online ดังนั้นการจัดโครงสร้างการบริหารขององค์กรต้องสอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ การจัดทำกลยุทธ์ด้านการตลาดที่เหมาะสม ปรับรูปแบบการนำเสนอรายการต่างๆ เพื่อความทันสมัยและเป็นสากล และเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆได้

4.เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการแล้ว ถึงแม้ อสมท มีแนวโน้มขาดทุนลดน้อยลง และในปีนี้คาดการณ์ว่าอาจจะมีกำไร หรือขาดทุนไม่มาก แต่บริษัทก็ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่ธุรกิจประเภทเดิมจะมีรายได้ลดน้อยลงเรื่อยๆ ก็ต้องหาวิธีที่จะต้องเพิ่มช่องทางหารายได้มาทดแทน ซึ่งอาจมาจากฐานธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้ว หรือลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ หา Strategy Partner โดยอาศัยประสบการณ์ และความได้เปรียบต่างๆที่ อสมท มีอยู่

5.ปัจจุบันสถานการณ์โลกน่าเป็นห่วงในภาวะเศรษฐกิจถดถอย องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์รอบตัวที่เปลี่ยนแปลง เช่น ต้องมีการปรับ Organization ให้เหมาะสม มีความยืดหยุ่นตัวสูงต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงรอบตัว มีการบริหารความเสี่ยง มีเครือข่ายธุรกิจ มีการบริหารงานที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้และวางแผน มีการพัฒนาด้าน HR ให้บุคลากรมีคุณภาพทันกับเทคโนโลยีและปริมาณที่เหมาะสมกับองค์กรและภารกิจ มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใสในการทำงาน และมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้องค์กรธุรกิจของเราประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมาย มีกำไร มีความยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคมต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ

  วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแ...