“พีระพันธุ์” เร่งแก้ปัญหาที่ดินด่านช้าง ให้ชาวบ้าน 113 รายได้รับสิทธิ์ทำกินตามข้อร้องเรียนถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีโดยเร็วหลังเกิดความล่าช้ามานาน ระบุ 1 สัปดาห์ต้องเสร็จ พร้อมขอให้ทำงานอย่างบูรณาการ คู่ขนานระหว่างหน่วยงานเพื่อลดขั้นตอนตามระบบราชการ ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับที่ดิน เช่น กลุ่มที่มีที่ดินทำกินอยู่แล้ว ก็ต้องชี้แจงเหตุผลอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าถูกกลั่นแกล้ง หรือเกิดความไม่เท่าเทียม
วันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีที่ดินทำกินของประชาชน ใน ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดยมีตัวแทนจาก จ.สุพรรณบุรี,กรมป่าไม้,สำนักงานที่ดิน จ.สุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ
สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้นายพีระพันธุ์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมประชุม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่เดือดร้อนไร้ที่ดินทำกิน ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จำนวน 113 ราย ที่ทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการตามคำบัญชาของ นายกฯ ที่ให้จัดสรรที่ดินจำนวน 557 ไร่เป็นที่ทำกินให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกรมป่าไม้ที่ให้สิทธิ์กับเอกชนเพียง 2 รายเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ แต่กลับไม่ให้สิทธิ์กับประชาชนเข้าทำมาหากิน โดยในการประชุมครั้งนั้น นายพีระพันธุ์ได้ขอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางผ่อนปรน แก้ไขกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคทำให้การดำเนินการจัดสรรที่ดินล่าช้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าพื้นที่ทำกินโดยเร็วก่อนการจัดการเรื่องอื่นๆ และขอให้กลับมารายงานผลการดำเนินงานในการประชุมโดยเร็วที่สุดภายในวันที่ 15 มกราคม 2566
ทั้งนี้ในการประชุมติดตามความคืบหน้าครั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้สอบถามความคืบหน้าตามที่ได้เร่งรัดไปจากการประชุมครั้งก่อน ที่ขอให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา แต่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานด้านการจัดสรรที่ดินของ จ.สุพรรณบุรี ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามกำหนดได้ เนื่องจากติดที่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของประชาชนทั้ง 133 ราย และการกำหนดแปลงที่ดินเพื่อจัดสรรให้กับประชาชนที่มีสิทธิ์แต่ละราย ทำให้ขั้นตอนที่จะต้องส่งต่อไปตามกระบวนการต่างๆ ล่าช้างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจะได้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 38 วัน
ด้านนายพีระพันธุ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ตามนโยบายของรัฐบาลคือต้องการให้ประชาชนมีที่ดินทำกินเป็นหลัก โดยในกรณีนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จัดสรรพื้นที่จำนวน 557 ไร่ ให้กับที่ดินของประชาชน 113 ราย ไปแล้วและที่ผ่านมาก็ได้เร่งรัดให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการให้ประชาชนที่มาร้องเรียนได้เข้าพื้นโดยเร็ว เพราะตอนนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ในส่วนของกรณีที่ยังติดขั้นตอนเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของประชาชนนั้นก็ขอให้กลับไปเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยเน้นกลุ่มผู้ร้องเรียนทั้ง 113 รายก่อนเนื่องจากเป็นบัญชาของนายกรัฐมนตรี และทางกรมป่าไม้เองก็ได้จัดสรรที่ดินว่างเปล่าจำนวน 557 ไร่มาให้คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ และการตรวจสอบคุณสมบัติดังกล่าวก็ขอให้ดำเนินการคู่ขนานไปกับการจัดทำรายละเอียดเรื่องแปลงทีดินเพื่อลดระยะเวลาการดำเนินการ และในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการจัดสรรที่ดินที่ไม่เข้าเกณฑ์นั้น ก็ควรชี้แจงในรายละเอียดเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนแต่ละรายด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ แต่เป็นการดำเนินการตามเกณฑ์ที่กำหนด หากมีที่ดินอยู่แล้วก็จะไม่สามารถรับการจัดสรรที่ดินได้ ทั้งนี้ได้ให้เวลาในการดำเนินการทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน1 สัปดาห์ และขอให้กลับมารายงานความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง
“นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ต้องการจัดที่ดินให้กับผู้ที่เดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน คือชาวบ้านเป็นหลัก ไม่ได้มีนโยบายเอาที่ดินของหลวงไปจัดสรรให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น เอกชน หรือ นิติบุคคล เพราะฉะนั้นภารกิจ หน้าที่ของพวกเราทุกคนที่เกี่ยวข้องคือจะทำอย่างไรจะให้ราษฎรที่เขายากไร้เรื่องที่ทำกินให้มีที่ทำกิน อันนี้คือนโยบายหลักโดยเฉพาะของรัฐบาลชุดนี้” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น