วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566

‘สุพันธุ์ ไทยสร้างไทย’ เอาบ้างชูนโยบายแก้หนี้ใน-นอกระบบ ขอบคุณ ‘กรณ์’ เอานโยบายไปขยายต่อ ปชช. ได้ประโยชน์



วันที่ 19 มกราคม 2566 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย แถลงนโยบาย ‘แก้หนี้ให้ประชาชน’ ในแคมเปญ SMEs ‘สร้างไทย คนตัวเล็กสร้างชาติ’ โดยกล่าวว่า วันนี้ปัญหาสำคัญของประเทศคือเศรษฐกิจ สืบเนื่องมาจากการที่รัฐล็อกดาวน์ในช่วงการระบาดของโควิด ประชาชนทำกิจการไม่ได้ เป็นหนี้สิน เศรษฐกิจของประเทศก็ชะงักเพราะหนี้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น หนี้สาธารณะ, หนี้ครัวเรือน, หนี้เสีย, หรือหนี้นอกระบบ ถ้าเราแก้หนี้ไม่ได้ เศรษฐกิจก็เดินต่อไปลำบาก แต่ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลแก้หนี้ได้ถูกจุดไหม?

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กู้หนี้สาธารณะรัฐบาลมาโดยให้เหตุผลว่าเอามาพัฒนาประเทศ จนวันนี้เรามีหนี้สาธารณะสูงถึง 60% ของจีดีพี หรือสูงถึงกว่า 3 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตประชาชนกลับไม่ดีขึ้น รายได้ประชาชนไม่ได้เพิ่มขึ้น เงินบางส่วนเอาไปใช้กับงบประมาณกองทัพ เช่น ซื้อเรือดำน้ำ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ อีกทั้งยังมีเรื่องคอร์รัปชันซึ่งสูญงบประมาณของประเทศไปไม่ต่ำกว่า 30% แทนที่จะเอาเงินก้อนี้มาอัดฉีดให้คนตัวเล็กเข้ามาหมุนเงินในระบบได้อีกหลายรอบ

ขณะเดียวกันหนี้ครัวเรือนของคนไทยสูงถึง 90% ของจีดีพี สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่รายได้ของประชาชนกลับไม่สูงตาม แถมยังมีค่าครองชีพที่แพงขึ้น เช่น ค่าไฟฟ้า นั่นแสดงหเห็นว่าหนี้สาธารณะที่รัฐบาลกู้มาไม่ได้ถูกใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

นอกจากนี้ หนี้เสียเครดิตบูโรช่วงโควิดมีถึง 5 แสนล้านบาท เราต้องแก้หนี้เสียเหล่านี้ ไม่ใช่ยกเลิกเครดิตบูโร ซึ่งผิดวิธี เพราะความจริงแล้วคนเหล่านี้เขามีศักยภาพในการใช้หนี้ แต่เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการล็อกดาวน์ช่วงโควิด ทำให้พวกเขาประกอบกิจการไม่ได้ ดังนั้นเราต้องพักหนี้ 3 ปีเพื่อชดเชยช่วงที่ประชาชนทำมาหากินไม่ได้เพราะโควิดมา 3 ปี และลดดอกเบี้ยจากอัตราของหนี้เสีย ให้เท่ากับดอกเบี้ยปกติ นโยบายกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียโดยใช้งบประมาณแค่ 10,000 ล้านบาทก็จะช่วยปลดล็อกชีวิตคนอีกหลายล้านคน เพื่อให้พวกเขากลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวได้ใหม่ เป็นนักรบของประเทศไทยหารายได้เข้าประเทศ

อีกทั้งยังมีเรื่องหนี้นอกระบบที่คนไทยกว่า 40% เป็นหนี้ หลังจากช่วงการระบาดของโควิดนาน 3 ปี การเป็นหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อเดือนทำให้หลายคนต้องจมอยู่กับการเป็นหนี้และใช้ดอกเบี้ย ตัวเองเคยเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบมาก่อนจึงรู้ดีว่ารู้สึกอย่างไร ไม่มีกะใจทำมาหากิน บางรายต้องขายทรัพย์สินหรือหนีหนี้ หมดโอกาสกลับมาทำมาหากินได้อย่างเคย พรรคไทยสร้างไทยจะแก้วงจรอุบาทว์และหยุดระบบที่เอาเปรียบประชาชนให้ได้ ด้วยนโยบายเครดิตประชาชน จากพื้นฐานความคิดที่ว่าประชาชนทุกคนมีเครดิต และสามารถกู้ได้ตั้งแต่ 5,000 บาท ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน และถ้าจ่ายหนี้ตรงเวลาก็จะเพิ่มได้สูงถึง 50,000 บาท เพียงแค่ลงทะเบียนออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องกลับไปพึ่งหนี้นอกระบบ 

วันนี้เราเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมมาก คนตัวเล็กและ SMEs เป็นหนี้สินท่วมตัวไม่สามารถกลับมาทำมาหากิน พรรคไทยสร้างไทยจึงมีแคมเปญ ‘SMEs สร้างไทย คนตัวเล็กสร้างชาติ’ เพื่อช่วยพวกเขาแก้หนี้และกลับมายืนได้อีกครั้ง หากได้เป็นรัฐบาลยืนยันว่าจะแก้หนี้ได้อย่างแน่นอน โดยส่วนหนึ่งจะใช้งบประมาณซอฟท์โลนเดิมที่รัฐบาลกู้มาแล้วยังติดค้างในคอขวดมาใช้ และยังมีนโยบายหาเงินเข้าประเทศ เช่น การจัดอีเวนต์ใหญ่ หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นต้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เปิดแคมเปญ ‘เงินกู้ด่วนสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ติดแบล็กลิสต์’ ที่คล้ายกับ ‘เงินกู้ด่วน กองทุนเครดิตประชาชน’ ที่พรรคไทยสร้างไทยเปิดนโยบายแก้หนี้นอกระบบไปก่อนหน้านี้ นายสุพันธุ์ กล่าวว่า แม้เราจะทำมาก่อนหลายเดือนแล้ว แต่ถ้านายกรณ์มีจุดประสงค์ที่ดีในการช่วยเหลือประชาชนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน เพราะทุกคนช่วยกันทำ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ณพลเดช" ปิ๊งไอเดีย! เชียงรายศูนย์กลางการเงินโลก-โมเดลสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย หลังออกกฎหมาย เขต ศก.พิเศษ

วันที่ 19 เมษายน 2567     เวลา 11.00 น. ที่ประเทศลาว  ดร.ณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำส...