เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามแผนพัฒนาบึงบอระเพ็ดและการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยแล้ง เอลนีโญ พร้อมพบปะราษฎรและรับฟังปัญหาด้านการเกษตร ณ บึงบอระเพ็ด ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้ให้แนวทางการบริหารจัดการน้ำเพิ่มเติมว่าต้องการพัฒนาให้บึงบอระเพ็ดสามารถเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด เพิ่มพื้นที่ในการขุดลอกบึงบอระเพ็ดให้มากขึ้น รวมทั้งขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ตามข้อเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในฤดูน้ำแล้ง และเป็นแหล่งหน่วงน้ำใช่ช่วงฤดูน้ำหลากก่อนไหลลงแม่น้ำสายหลัก โดยได้มีการประสานกับปลัดกระทรวงเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยแล้วที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน มีแผนพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด ออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 บริหารจัดการ/การเข้าใช้ประโยชน์ ด้านที่ 2 การแก้แก้ไขปัญหาภัยแล้ง และสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ด้านที่ 3 คุณภาพตะกอน และรักษาระบบนิเวศ และด้านที่ 4 การจัดการน้ำท่วม บรรเทาอุทกภัย
@siampongnews เร่งพัฒนาพื้นที่ #บึงบอระเพ็ด เป็นแหล่งเก็บกักน้ำฤดูน้ำแล้ง เป็นแหล่งหน่วงน้ำใช่ฤดูน้ำหลาก ก่อนไหลลงแม่น้ำสายหลัก #ข่าวtiktok #tiktokshopครีเอเตอร์ ♬ เสียงต้นฉบับ - สยามพงษ์นิวส์
"พื้นที่ยังไม่เคยมีการพัฒนาอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลซ้ำซ้อนกัน ระหว่างจังหวัดนครสวรรค์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงต้องการลงมาขับเคลื่อนและพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวด้วยตัวเองอย่างจริงจัง โดยเน้นย้ำว่าทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรและประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์มากที่สุด" ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาตะเพียนทอง ขนาด 7 ชม. จำนวน 200,000 ตัว กุ้งก้ามกราม ขนาด 2 - 3 ซม. ขนาด 200,000 ตัว ปลาตะเพียนวัยอ่อน 2,000,000 ตัว (ปล่อยแบบ mobile hatcherry) และปลาชะโอน ขนาด 5 - 10 ซม. จำนวน 500 ตัว พร้อมแจกเอกสารสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) จำนวน 20 รายด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น