เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) รองประธานคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลลำไท มจร เข้าร่วมประชุมคณะทำงานบริหารศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ตาม พรบ.2562 ที่ห้องพุทธปัญญา วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร
พระปราโมทย์ กล่าวว่า ในการนี้ ดร.มยุรี จำจรัส ยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มากราบลาเพื่อย้ายไปรับตำแหน่งด้านยุติธรรมในจังหวัดชลบุรี ซึ่ง ดร.มยุรี เป็นยุติธรรมจังหวัดที่มุ่งมั่นทำงาน ที่ขับเคลื่อนงานยุติธรรมและขับเคลื่อนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งมาช่วยขับเคลื่อนศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร ตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งผ่านมา 4 ปี จนศูนย์มีความชัดเจนเป็นศูนย์ที่ประเมินผลออกมาได้เป็นระดับดีเยี่ยม จึงมีการมอบหมายให้ยุติธรรมท่านใหม่เข้ามาขับเคลื่อนสานต่องานยุติธรรมทางรอดของสังคม
พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ประธานขับเคลื่อนศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ตำบลลำไทร มจร กล่าวต้อนรับยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคนใหม่ว่า มิติการขับเคลื่อนศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเรามุ่งเชิงปริมาณ จึงควรมีการขับเคลื่อนเชิงคุณภาพในระดับนโยบายในการบริหารจัดการศูนย์ ประเด็นสำคัญจะมีการขับเคลื่อนบริหารศูนย์อย่างไร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ดร.มยุรี กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันสถานีตำรวจมีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน โดยพนักงานสอบสวนสามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ทันที เพราะแท้จริงแล้วมีความต้องการสินไหมทดแทน ต้องการขอโทษ ซึ่งไม่ต้องออกประวัติคดีต่างๆ เป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นพนักงานสอบสวน ทำให้ไม่เสียประวัติไม่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือเพราะสามารถไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจบ โดยนางสาวสุวดี ไหลพึ่งทอง ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคนใหม่จะขับเคลื่อนงานต่อไป
"โดยรายงานในการขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว โดยหลักสูตรสันติศึกษา มจร ได้สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในการฝึกอบรมที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดรุ่น 12 ในการพัฒนาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ระหว่าง 20 - 24 เดือนธันวาคม พ.ศ.2566" พระปราโมทย์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น