วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

"เศรษฐา" เยือนลาวอย่างเป็นทางการ 30 ต.ค.นี้ คาดชมแข่งเรือออกพรรษาไทย-ลาวสะหวันนะเขต



โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.หนองคาย ติดตามปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดน การพัฒนา OSS ไทย-ลาว-จีน พร้อมเป็นประธานเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก 29 ต.ค. นี้ 

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566  นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดหนองคาย ในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมคณะตรวจราชการ ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้ 

เวลาประมาณ 13.15 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยขบวนรถยนต์ไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แล้วออกเดินทางไปยังสำนักงานศุลกากรหนองคาย ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย โดยในเวลาประมาณ 16.15 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดน และการพัฒนา One Stop Service ระหว่างราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ห้องประชุมนาคราช ชั้น 2 สำนักงานศุลกากรหนองคาย 

ช่วงเย็น เวลาประมาณ 17.45 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 (Naga Fire Miracle of Faith 2023) ที่ลานนาคาเบิกฟ้า ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยนายกรัฐมนตรีจะร่วมพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช ณ ลานนาคาเบิกฟ้า 1 ก่อนเป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 ณ ลานนาคาเบิกฟ้า 2 จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ณ พุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์) ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ร่วมกับประชาชนและนักท่องเที่ยว 

“การลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.หนองคาย ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมร่วมรับชมการจัดงานประเพณีออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่และถ่ายทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง เป็นการสร้างสังคมและชุมชนให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ รวมถึงเป็นการสะท้อนถึงตำนานและความเชื่อมาแต่อดีต ที่สื่อออกมาผ่านทางขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม อีกทั้ง ต่อยอดเป็น Soft Power ในการนำทุนวัฒนธรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ นำรายได้เข้าประเทศ สร้างงานสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.หนองคาย และกลุ่มจังหวัดตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสัตวแพทย์ชัย  เปิดเผยด้วยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว

การเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสานต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิด รวมทั้งเน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างไทยกับ สปป.ลาว

สำหรับกำหนดการสำคัญ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว รวมทั้งจะได้เข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว และเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และพบหารือกับนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในพิธีเปิดสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คําสะหวาด) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสองประเทศ ผ่านสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.)

ทั้งนี้นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร เปิดเผยว่า งานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาไทย-ลาว ประจำปี 2566 กำหนดขึ้นในวันที่ 27-29 ตค. 2566 เริ่มต้นโดยพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ลงเรือแห่ไปตามลำน้ำโขง จากนั้นจะเป็นพิธีตีช้างน้ำนองที่ยิ่งใหญ่จำลองตามสมัยโบราณรวมเรือทุกประเภคกว่า 30 ลำ ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย การแข่งเรือยาว ศึกจ้าวลำน้ำโขง ชมการแข่งขันของเหล่าฝีพายเรือดังระดับประเทศมาร่วมชิงชัย กว่า 30 ลำ

พิธีเปิดงานวันที่ 27 ต.ค. คณะจากแขวงสะหวันนะเขต ร่วมกับพี่น้องประชาชนฝั่งลาว เดินทางโดยรถยนต์ผ่านด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มาร่วมพิธีเปิดงานแข่งเรือออกพรรษาไทย-ลาว และในวันที่ 30 ต.ค. คณะจากจังหวัดมุกดาหาร และนักท่องเที่ยวฝั่งไทยเดินทางโดยรถยนต์ ร่วมวันเปิดงานฝั่งสะหวันนะเขต

นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารกล่าวต่อไปว่า งานแข่งเรือมุกดาหารทุกปีเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนคนสองฝั่งโขงได้เป็นอย่างดี บรรดาห้างร้านผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่ และร้านค้าร้านอาหารคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดงาน โดยในปีก่อนๆ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่จังหวัดมุกดาหารได้กว่า 50 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ จะมีเม็ดเงินกระจายลงสู่พื้นที่มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...