วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566

“พิพัฒน์” เผยกองทุนช่วยเหลือคนหางานฯ มอบสิทธิประโยชน์เยียวยาแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลแล้วกว่า 13 ล้านบาท



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับกรมการจัดหางาน เร่งเยียวยาแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล จากเหตุความไม่สงบ มอบสิทธิประโยชน์กองทุนฯ บรรเทาความเดือดร้อนแล้ว 865 ราย เป็นเงินร่วม 13 ล้านบาท ย้ำให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานไทยเป็นลำดับแรก

เมื่อวันที่ 28  ตุลาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผมมีความรู้สึกห่วงใยแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอล และให้ความสำคัญกับการเยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องแรงงานไทยอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายกรมการจัดหางานอำนวยความสะดวกและชี้แจงสิทธิประโยชน์ให้แก่แรงงานไทยทราบทันทีที่เดินทางถึงท่าอากาศยานประเทศไทย เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศโดยเร็วที่สุด ความคืบหน้าล่าสุดได้มอบสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ให้แก่แรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯแล้ว จำนวน 865 ราย แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต 4 ราย รายละ 40,000 บาท กรณีทุพพลภาพ 1 ราย รายละ 30,000 บาท กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับไทย เนื่องจากภัยสงคราม 860 คน คนละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 13,090,000 บาท โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ของผู้รับสิทธิประโยชน์ เพื่อความสะดวก โปร่งใส ไม่ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อราชการ ณ สำนักงาน

“สำหรับพี่น้องแรงงานไทยที่ยื่นเอกสารขอรับสิทธิฯกับกรมการจัดหางานครบถ้วนแล้ว ไม่ต้องกังวลใจ ผมได้กำชับกรมการจัดหางานให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานไทยที่รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลเป็นลำดับแรก และดำเนินการให้พี่น้องแรงงานไทยที่กำลังเดือดร้อนได้รับการดูแลตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด” รัฐมนตรีพิพัฒน์ กล่าว

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ  ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ และได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอล สามารถยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยเตรียมเอกสารสำคัญ อาทิ สำเนาบัตรสมาชิกกองทุนฯ (ถ้ามี) สำเนาหนังสือเดินทาง (ทุกหน้าที่มีข้อมูลและมีตราประทับ ถ้าไม่ได้ประทับตราวันที่กลับเข้าไทยให้แนบสำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินวันที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือ สำเนาบัตรวีซ่าทำงาน สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง (ธนาคารใดก็ได้ พร้อมกรอกแบบฟอร์ม KTB Corporate Online) หรือในกรณีเสียชีวิตจะต้องเตรียมสำเนาใบมรณบัตร และเอกสารของทายาทซึ่งเป็นผู้รับสิทธิด้วย โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ และสายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน

ทั้งนี้ รายงานสถานการณ์แรงงานไทยในรัฐอิสราเอล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ระบุว่า มีผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับประเทศไทย จำนวน 8,478 คน แรงงานเดินทางกลับถึงไทยแล้วทั้งสิ้น 36 เที่ยวบิน จำนวน 6,448 ราย และยื่นแบบขอเดินทางกลับไปทำงานประเทศอิสราเอลแล้ว 1,189 คน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...