“เศรษฐา-แพทองธาร” นำประชุม สส.เพื่อไทยเร่งปรับแผนใหม่ สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ ชวนสส.เพื่อไทย แต่งกายผ้าขาวม้า ร่วมชมภาพยนต์ "สัปเหร่อ" วันพรุ่งนี้ พร้อมแนะหาเพชรในตม ร่วมสร้างซอฟต์พาวเวอร์แต่ละชุมชน นายกฯ เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หวังช่วยเหลือภาคแรงงานที่ไปเสี่ยงชีวิตในต่างประเทศ วอนคนไทยกลับมาแผ่นดินเกิด อย่าห่วงเงินไม่กี่หมื่นแลกกับชีวิต แจงเหตุบินต่างประเทศถี่ หวังขยายตลาดภาคเกษตร-ปศุสัตว์ ขอสส. พรรคลุยลงพื้นที่ เตรียมความพร้อมการเมืองท้องถิ่นและการเลือกตั้งซ่อม
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 การประชุมสส.พรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรค นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธาน โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค ขอให้สส. และสมาชิกมาร่วมประชุมกันเยอะๆ ซึ่งตนเองอยากพูดถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค เพราะพรรคได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา และระหว่างที่เป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ในช่วง 1- 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้สร้างผลงานมากมาย โดยมีแผนจะปรับเปลี่ยนพรรค ให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้น เป็นพรรคที่พร้อมจะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนเองพร้อมทำให้พรรคเพื่อไทย ได้หาความรู้อยู่เรื่อยๆ ในทุกด้าน ทั้งด้านที่ถนัดและไม่ถนัด และอยากเห็นความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล ในแต่ละด้านเช่นกัน เพื่อแบ่งปันความรู้ ความสามารถ ซึ่งกันและกัน
ขณะที่นายเศรษฐา ได้เชิญชวนสส. และสมาชิก ให้ไปดูหนังเรื่องสัปเหร่อในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) เวลา 19.45 น. โดยขอให้ทุกคนแต่งตัวจัดเต็ม จะมีผ้าขาวม้า หรือนุ่งโจงกระเบนก็ได้ ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ทั้งหมด ซึ่งนโยบายซอฟต์พาวเวอร์นี้ จะขับเคลื่อนโดย น.ส.แพทองธาร และถือเป็นโยบายที่ใหญ่พอๆ กับดิจิทัลวอลเล็ต และ ถือเป็นวาระของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น หากสส. คนใดมีไอเดียใหม่ๆ หรือรู้จักเพชรในตมตรงไหน ก็ขอให้ขุดขึ้นนำมาเสนอ
นายกฯเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หวังช่วยเหลือภาคแรงงานที่ไปเสี่ยงชีวิตในต่างประเทศ
นายเศรษฐา กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ ถึงสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่กระทบต่อแรงงานไทยในอิสราเอล เป็นเครื่องสะท้อนว่าทำไมรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร เพราะเกิดปัญหาแรงงานไทยเปลี่ยนใจไม่กลับประเทศ แม้สงครามจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพียงแค่นายจ้างให้เงินเพิ่ม 50,000 บาท และนายจ้างอ้างเรื่องการเลื่อนจ่ายเงินเดือนออกไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน ทั้งที่เสี่ยงต่อการเกิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน จึงเป็นภาพสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า นี่คือปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สำนักข่าวกรองและฝ่ายความมั่นคง ยังระบุว่า ความรุนแรงของสงครามอิสราเอล-ฮามาส จะทวีขึ้น และลุกลามไปประเทศข้างเคียง จึงอยากขอให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารเชิญชวนคนไทยให้กลับมา เพราะเงินจำนวนเท่าใด ก็ไม่สามารถทดแทนชีวิตได้ และเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้
”รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าน้ำ ค่าไฟ พักหนี้เกษตรกร รวมถึงเงินดิจิตอลวอลเล็ต นี่คือเสียงสะท้อนที่เราไม่สามารถลืมได้“
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า แม้ว่านักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์พยายามบอกว่า เรื่องการรักษาวินัยการเงินการคลัง เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำเพียงดิจิตอลวอลเล็ต จึงขอฝากให้ สส.ของพรรคลงพื้นที่สื่อสารกับประชาชน
แจงบินต่างประเทศถี่ หวังขยายตลาดภาคเกษตร-ปศุสัตว์ ขอสส. พรรคลุยลงพื้นที่
นายเศรษฐา ระบุถึงการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ต้องบินไปต่างประเทศว่า ไทยได้เปิดตลาดภาคการเกษตร ตามที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยเฉพาะการเปิดตลาดโค ซึ่งเป็นภาคปศุสัตว์ที่สำคัญของไทย ทั้งในบรูไน มาเลเซีย จีน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งหากหลายประเทศมาร่วมลงทุนกับไทย จะทำให้ไทยมีศักยภาพในการเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 50,000 ตัวต่อวัน
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส. และการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยได้เน้นย้ำให้ สส. มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แม้จะเป็นรัฐบาลแล้ว ก็จะลืมการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้ เพราะจะเป็นสัญญาณสำคัญนำไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป
ส่วนความสัมพันธ์ของรัฐบาลและสส. นั้น ถือว่าต่างคนต่างทำงานหนัก และต้องดูผลงานระยะสั้นเพื่อจะทำนโยบายบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน โดยตนเองจะเข้าพรรคให้บ่อยขึ้น เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนผ่าน สส.ในพื้นที่ และแก้ไขปัญหา ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น