จังหวัดพิษณุโลก ลงนาม MOU ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา” เพื่อความเป็นอารยเกษตร พร้อมหิ้วปิ่นโต เอามื้อสามัคคี แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จังหวัดพิษณุโลกขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา” เพื่อความเป็นอารยเกษตร โดยมีการลงนาม MOU ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พร้อมดำเนินกิจกรรม “หิ้วปิ่นโต ไปเอามื้อที่แปลงโคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” ณ ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ จังหวัดพิษณุโลก มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชุมพล เสมาขันธ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นางศุภลักษณ์ แก้วมณี พัฒนาการจังหวัดพิษณุโลก หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเครือข่ายโคก หนอง นา พัฒนาชุมชน จังหวัดพิษณุโลก ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรมฯ
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีของคนไทยและพี่น้องชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งมั่นในการ "สืบสาน รักษา และต่อยอด" ในพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานแนวทางความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการพระราชดำริ 4,741 โครงการ และทรงอรรถาธิบายในเรื่อง "อารยเกษตร" อันเป็นศัพท์บัญญัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายถึงการพัฒนาพื้นที่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีการจัดพื้นที่ครบทุกส่วน มีโคก มีหนอง มีนา มีพืชไร่ พืชสวน ผสมผสาน ทำให้มีความมั่นคงด้านคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์ เห็นได้จากการทำเกษตร 365 วัน หรือทั้งปี แต่ประเทศไทยมีฤดูฝนเพียงประมาณ 120 วัน หรือ 4 เดือน ด้วยเหตุนี้ในช่วงวันที่เหลือนอกจากฤดูฝน เราจึงต้องบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคในครัวเรือน ตลอดจนถึงมีเพียงพอสำหรับการประกอบอาชีพและการทำเกษตรกรรม โดยนำโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ที่มุ่งเน้นการจัดการน้ำในพื้นที่ ทั้งการขุดหนอง ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกไม้ยืนต้น เพิ่มพื้นที่ป่าตามศาสตร์พระราชา ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เป็นต้น
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต่ออีกว่า บันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา ” จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้ร่วมกับคณะกรรมการเครือข่าย โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน จังหวัดพิษณุโลก และมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยทางมหาวิทยาลัยจะเป็นหน่วยให้ความรู้ด้านวิชาการในพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา ” จังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะในด้านการจัดการการผลิต การพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตรแปรรูป การจัดการเชิงธุรกิจ การตลาดยุคใหม่ การสร้างคุณค่าใหม่กับสินค้าแปรรูป การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ สร้างองค์ความรู้เรื่องพลังงานทดแทน และเชื่อมโยงศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ จังหวัดพิษณุโลก มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม กับพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ โคก หนอง นา ส่วนคณะกรรมการมีหน้าที่ในการพัฒนาองค์ประกอบด้านภูมิศาสตร์ เป็นองค์ประกอบทางกายภาพ ในรูปแบบ โคก หนอง นา มีส่วนร่วมในการต่อยอดขยายผลกิจกรรมการพัฒนาอื่น พร้อมทั้งการขยายผลสู่ครัวเรือนที่ตั้งโดยรอบพื้นที่ต้นแบบ และกิจกรรม โครงการ หรือการวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยดำเนินการร่วมกับเครือข่ายทีมครูพาทำในรูปแบบจิตอาสาพัฒนาชุมชน และสร้างเครือข่ายทีมวิทยากร ครูกระบวนการ ครูกสิกรรม ครูพาทำ รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวกันของเจ้าของแปลงพื้นที่ต้นแบบที่ดำเนินกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน หรือเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการเกื้อหนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล และส่งเสริมกันและกัน ในลักษณะกลุ่มสนใจ กลุ่มกิจกรรม หรือกลุ่มที่มีปัญหาเฉพาะด้าน และสร้างเครือข่ายทีมเยาวชน คน “โคก หนอง นา” แลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อยอดขยายผล
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากบันทึกข้อตกลง (MOU) แล้ว จังหวัดพิษณุโลกพร้อมด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ยังร่วมกันจัดกิจกรรมเอา มื้อสามัคคี ณ โคกหนอง นา โดยมีกิจกรรม ซึ่งประกอบไปด้วย 1) การบรรยายหัวข้อ “การปลูกพืชอินทรีย์ และการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์” โดย อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร 2) กิจกรรมทำปุ๋ยหมักอัดแท่ง แซนด์วิชปลา ใส่ปุ๋ยและปลูกต้นไม้ และปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2566 เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในวันที่ 21 ตุลาคม 2566 พร้อมทั้งการหิ้วปิ่นโต รับประทานอาหาร พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งได้รับจากการดำเนินกิจกรรม
“ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่เป็นกำลังสำคัญในการหนุนเสริมดูแล ให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้ในการประยุกต์ใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ ไปสู่ โคก หนอง นา ต่อยอดไปเป็นอารยเกษตร เป็นศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา ที่ยั่งยืนให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจได้มีโอกาสได้เรียนรู้ศึกษา พร้อมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางพระราชดำริของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" เพื่อสร้างความยั่งยืนทางอาหาร และสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจ การฝึกอาชีพให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกต่อไป" นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวในช่วงท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น