เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การทำงานของวธ.ต่อจากนี้ ฝ่ายการเมืองจะเป็นทีมกำหนดนโยบาย และให้ทางกระทรวง กรม หรือส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานควบคู่กันไป โดยมอบหมายให้ทีมการเมืองทำงานร่วมกับกรมและหน่วยงานในสังกัดวธ. ได้แก่ 1.นายพลภูมิ เกียรติภูมิประเทศ ผู้ช่วยประจำรมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) พร้อมประสานงานภาพรวมทั้งภายในและภายนอกวธ. 2.น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับกรมศิลปากร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) และประสานงานทั้งภายในและภายนอกวธ. 3.น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับกรมการศาสนา (ศน.) และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 4.นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับศูนย์มานุษวิทยาสิริณธรและกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และงานด้านกฎหมายของผู้ตรวจราชการในสังกัดวธ. 5.นายนิติ เนื่องจำนงค์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับศูนย์คุณธรรม และ 6.นายชัยธัช รัตนจันทร์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับหอภาพยนตร์
รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ วธ.ยังได้รับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้แต่ละกระทรวงดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การดำเนินจัดหางานรองรับคนไทยที่กลับมาจากอิสราเอล โดยดูความเหมาะสมตามภารกิจของแต่ละกระทรวง การแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆภายในกระทรวงให้มีความโปร่งใส ไม่ให้มีการใช้เส้นสาย โดยให้มุ่งเน้นการประเมินที่ผลงานและความสามารถเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเร่งให้ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม โครงการ การดำเนินงานของวธ. ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับงานของภาครัฐ อาทิ เรื่อง Soft Power ที่ภาครัฐจะสนับสนุนให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น