วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ทนายอนันต์ชัยถวายความรู้ด้านกฎหมาย แก่พระสังฆาธิการพระภิกษุสามเณรศรีสะเกษ



เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมวิทยาลัยสงฆ์ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีเมตตามอบหมายให้ พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี และรองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ รูปที่ 2 ไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการถวายความรู้ด้านกฎหมายและวิชาการแก่พระสังฆาธิการ พระภิกษุ สามเณร และไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดและประชาชนทั่วไป ซึ่งมูลนิธิทนายกองทัพธรรมกับงานพระศาสนา นำโดย ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เป็นทนายความชื่อดังฉายา ทนายกระดูกเหล็ก พร้อมด้วยคณะวิทยากรได้แก่ นายชาญณรงค์ แก่นทอง อุปนายกสภา สถาปนิก ประธานอนุกรรมการสถาปนิกอาสาและผู้เชี่ยวชาญทางวิชาสถาปัตยกรรมของกระทรวงยุติธรรม และทนาย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา ทนายกองทัพธรรม กรุงเทพ เปรียญธรรม 7 ประโยค เป็นผู้มาถวายความรู้ด้านกฎหมายและวิชาการแก่พระสงฆ์และประชาชนทั่วไป โดยมี พระสังฆาธิการ พระภิกษุ สามเณร และไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดและประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มาเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกฎหมายจำนวนมาก

พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี และรองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ รูปที่ 2 กล่าวว่า โครง การนี้เป็นโครงการที่พระเดชพระคุณพระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 10 ได้เล็งเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่างที่ทราบว่าพวกเราทุกรูปคงจะทราบว่าปัญหาเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะพวกเก่าๆ ที่ได้ตั้งใจทำงานอย่างยิ่งแต่ว่าเวลามีปัญหาขึ้นมาอะไรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายพระสงฆ์เราก็จะไปไม่เป็นคือมืดไปหมด เพราะฉะนั้นวันนี้ พวกเราก็คงจะได้ทราบวิธีที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะได้ชี้แจงให้ทราบเรื่องกฎหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น คือจากท่านคุณโยมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่ท่านทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่าพระสงฆ์เรานี้มีพระธรรมวินัย ที่ได้ปกป้องดูแลเราแล้วเราก็ต้องอยู่ในส่วนของภายใต้อำนาจกฎหมายบ้านเมืองด้วยและอะไรอีกหลายอย่างมาก เพราะฉะนั้นในวันนี้อาตมาภาพคงไม่ขอพูดอะไรมากก็อยากให้พระสงฆ์ทุกรูปได้อยู่ฟังเรื่องราวต่างๆอย่างตั้งใจจากมูลนิธิทนายกองทัพธรรมซึ่งเป็นโอกาสดี ที่จะได้รับฟังเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ ในส่วนของญาติโยมสาธุชนทั้งหลายที่มาร่วมรับฟังก็จะได้สอบถามด้านกฎหมายกับทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรมเพื่อจะได้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กล่าวว่า วันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่ได้มาขอถวายความรู้แก่พระภิกษุ สามเณรโดยเฉพาะพระภิกษุ ที่ตนอยากให้มามากที่สุดก็คือพระเลขาของพระสังฆาธิการไม่ว่าจะเป็นระดับไหน ตำบล อำเภอ จังหวัดหรือแม้แต่ภาค เพราะว่าพระเลขาท่านจะต้องเป็นผู้ถวายคำแนะนำ ในด้านกฎหมาย กฎมหาเถระสมาคมและพระธรรมวินัยกับพระคุณเจ้าซึ่งเป็นพระสังฆาธิการเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจากประสบการณ์พระคุณเจ้าที่เป็นพระสังฆาธิการจะไม่ค่อยมีเวลาในการที่จะมาศึกษากฎหมาย เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความสำคัญที่สุดในการถวายคำแนะนำและความรู้ทางกฎหมาย กฎมหาเถระสมาคม พระธรรมวินัยคือพระเลขาซึ่งสำคัญมากหรือเป็นผู้ช่วยพระเลขาก็ได้ ในส่วนของพระสังฆาธิการนั่นก็คือกำไร ท่านเป็นกำไรท่านรู้ เพราะฉะนั้นตนจะดีใจมากถ้าพระเลขาหรือผู้ช่วยพระเลขาทุกรูปมาอยู่ ณ ที่นี้ในจังหวัดนี้ ส่วนที่เป็นพระสังฆาธิการท่านมีกำไรคือพอพระเลขาทำเรื่องเสนอมาท่านรู้อยู่แล้วยิ่งง่ายใหญ่ ตนจึงได้คุยเรื่องนี้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดโมลี  ก็คือเจ้าคณะภาค 10 จากประสบการณ์ของตนเป็นทนายกองทัพธรรมมา 1 ปี 6 เดือนปัญหาก็คือพระเลขาไม่มีความรู้ พอพระเลขาไม่มีความรู้กลายเป็นพระสังฆาธิการท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่กฎหมายไปบังคับท่านเพราะว่าท่านเป็นเจ้าพนักงาน พระเลขาท่านไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบด้วย ที่จะมีการกระทำความผิดและคนที่จะถูกดำเนินคดีทั้งในทางกฎหมายบ้านเมืองก็คือพระสังฆาธิการระดับอำเภอ ระดับตำบล อำเภอจังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ตนอยากจะแจ้งให้ทราบ พระสงฆ์ สามเณรและประชาชนทั่วไป หากต้องการความรู้ด้านกฎหมายต่าง ๆ สามารถติดตามเพจได้ที่ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม

 ที่มา - https://www.banmuang.co.th/news/region/351385


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...