วันที่ 13 ธ.ค.2561 ที่ี่ห้องห้องเดอะ พอร์ทอล บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวในการจัดประชุมเตรียมความพร้อมของผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ช่วงหนึ่งว่า ได้พูดชัดเจนไปแล้วว่าพรรคไทยรักษาชาติเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเต็มตัวแน่นอน มีภารกิจสำคัญคือ ต้องหยุดการสืบทอดอำนาจ พรรคไทยรักษาชาติจะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ มีพรรคไทยรักษาชาติฝ่ายประชาธิปไตยจึงจะชนะ สำหรับธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง พรรคจะร่วมกับประชาชนเพื่อแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตย แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนป้องกันไว้ให้แก้ไขได้ยาก ดังนั้นเราต้องให้สังคมได้เรียนรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอย่างไร เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้วเราจึงจะเป็นพรรคแรกที่กระโดดเข้าไปร่วมกับประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า วันนี้ประเทศหยุดอยู่กับที่เพราะการยื้อกันไปมาระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ประเทศจมอยู่ในระบบการปกครองที่รวบอำนาจ ไม่ฟังเสียงประชาชน มีการวางแผนสืบทอดอำนาจต่อไปอีก 10 ถึง 20 ปี ประเทศจึงอยู่ในสภาพที่ไม่เป็นที่ยอมรับ ปกครองโดยผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะอย่างที่สุด และตรวจสอบไม่ได้ ประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพแม้แต่จะเสนอว่าตัวเองกำลังเดือดร้อนอย่างไร ได้แต่ให้ผู้นำตวาดใส่ ตะคอกใส่อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ การบริหารและนโยบายที่ผิดพลาดนั้นทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 4 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยจึงโตน้อยที่สุดในอาเซียน ความสามารถในการแข่งขันย่ำอยู่กับที่หรือถอยหลัง ทั้งๆ ที่การท่องเที่ยวเคยเติบโตเป็นพิเศษก็กลับเสียหาย เพราะผู้มีอำนาจบ้าอำนาจ พูดแบบไม่ฟังใคร จนเกิดสิ่งที่เรียกว่ารวยกระจุก จนกระจาย
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ความเหลื่อมล้ำก็เป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้ารัสเซียและตุรกี นอกจากนี้ ยังเจอปัญหาคอรัปชั่นในทุกระดับ ส่วนหนี้ครัวเรือนก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังไม่มีการเตรียมการรับมือสังคมสูงวัย อีกทั้งปัญหายาเสพติดก็รุนแรงขึ้น รัฐบาลพร้อมที่จะเล่นบทโหดกับประชาชนตาดำๆ แต่อ่อนปวกเปียกกับปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ การศึกษายังคงสอนให้ท่องจำมากกว่าการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน นโยบายของรัฐบาลนี้เอื้อทุนใหญ่แล้วอ้างว่าจะเป็นประโยชน์กับคนระดับล่างๆ ซึ่งล่าสุดมีการเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ แต่กลับยกเว้นการเก็บภาษีให้กับอีคอมเมิร์ซขนาดยักษ์เป็นเวลา 13 ปีโดยไม่มีเงื่อนไข ดังนั้น การใช้นโยบายโดยไม่มีประสิทธิผลทำให้ประเทศขาดดุลมหาศาล ขณะที่นโยบายช็อปช่วยชาติ รวมถึงแต๊ะเอียตรุษจีนล่วงหน้านั้น ถือเป็นการแจกเงินเจ้าสัวผ่านมือคนจน
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า พรรคไทยรักษาชาติมีทางออก มีทางแก้อย่างแน่นอน แต่วันนี้ยังไม่พูดถึงเรื่องนโยบายเพราะกลัวคนก๊อป 4 ปีมานี้มีคนก๊อปนโยบายพรรคไทยรักไทยไปแต่แก้เศรษฐกิจไม่ได้เพราะเอาไปใช้ในสภาพที่เปลี่ยนไป การแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้นจะต้องสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แต่ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาล คงจะสร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ ต้องเอาพรรคที่เป็นประชาธิปไตยเข้าไปเป็นรัฐบาล เปลี่ยนแนวคิดจากรัฐบาลอำนาจนิยมมาเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อเปลี่ยนความคิดของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได ้จึงมีทางเดียวคือต้องเปลี่ยนรัฐบาล
"เราจะยอมทนกันไปแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ หรือพอแล้วกับการบริหารแบบนี้ พรรพไทยรักษาชาติรวมบุคลากรที่มีประสบการณ์ เคยทำนโยบายที่แก้ปัญหาประเทศมาแล้ว และยังได้คนรุ่นใหม่มาร่วมกันอีก เราจึงมีความพร้อมที่จะแก้ปัญหา ขอเพียงแค่ประชาชนไม่ทนต่อสภาพนี้อีกต่อไป แล้วร่วมกันทำให้ได้พรรคประชาธิปไตยมาบริหารประเทศ แบบนั้นประเทศนี้จึงจะยังมีความหวัง"นายจาตุรนต์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น