เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์รัฐบาลไทยได้รายงานว่า คณะสงฆ์ขับเคลื่อน “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ติดตามประเมินผล “หมู่บ้านบ้านวัดใหม่” จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนตลาดชุมชนเก่าแก่ 100 ปี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่ประสบอัคคีภัย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า จังหวัดสิงห์บุรีมุ่งมั่นในการน้อมนำหลักการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ขยายผลสู่การเป็น “หมู่บ้านศีลธรรม” ตามแนวทางของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร องค์ประธานอำนวยการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำปี 2566 และกระทรวงมหาดไทย อย่างต่อเนื่องในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน โดยได้รับเมตตาจากพระมหาเถระ พระเถระ เป็นหลักชัยขับเคลื่อนโครงการฯ ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการน้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ “ศีล 5” หรือ “เบญจศีล 5” อันเป็นศีลพื้นฐานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้พุทธศาสนิกชนทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติเป็นหลักของชีวิต อันประกอบด้วย ศีลข้อที่ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี คือ การละเว้นจากการฆ่าชีวิตสัตว์ทุกชนิด ศีลข้อที่ 2 อทินฺนาทานา เวรมณี คือ การละเว้นจากการลักทรัพย์ ลักขโมย ไปลักลอบเอาของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ศีลข้อที่ 3 กาเมสุมิสฺฉาจารา เวรมณี คือ การละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ศีลข้อที่ 4 มุสาวาทา เวรมณี คือ การละเว้นจากการพูดปดงดเท็จ พูดโกหก พูดส่อเสียด พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย และศีลข้อที่ 5 สุราเมรยมัฌชปะมาทัตถานา เวรมณี คือ การละเว้นจากการดื่มสุราเมรัยและเครื่องดองของมึนเมาทุกชนิด ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจนเป็นนิสัย อันจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม นำมาซึ่งการสร้างสันติสุขให้กับประเทศชาติอย่างยั่งยืน
“จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับเมตตาจากคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ลงพื้นที่ติดตามและประเมินผล “หมู่บ้านบ้านวัดใหม่” หมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบในจังหวัดสิงห์บุรี โดยได้รับความเมตตาจาก พระธรรมรัตนมงคล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการบริหารกลางโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 พระเทพปวรเมธี ประธานกรรมการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง พระเทพเสนาบดี รองประธานกรรมการบริหารกลาง พร้อมด้วยกรรมการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง ร่วมลงพื้นที่ โดยมี พระธรรมวชิรกวี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี พระราชปริยัติสุธี รองเจ้าคณะภาค 3 พร้อมด้วยพระสังฆาธิการทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย หัวหน้าหน่วยราชการในจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน ถวายการต้อนรับ ณ วัดสุทธาวาส ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี และนิมนต์คณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่ตลาดชุมชนเก่าแก่ 100 ปี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ประชาชนที่ประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา” นายสุพจน์ฯ กล่าว
นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ติดตามของคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนทับยา ทำหน้าที่เป็น “มัคนายกน้อย” อาราธนาศีล ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากคณะครู รวมทั้งบุคคลในครอบครัว/ชุมชน ทั้งนี้ จังหวัดสิงห์บุรีมีประชากรรวมประมาณ 202,056 คน มุ่งเสริมสร้างให้ประชาชนเป็นผู้มีความรักใคร่ ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม โดยเฉพาะอำเภออินทร์บุรี เป็นอำเภอที่ยึดมั่นในการถือศีล 5 มีการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรม ไม่มีปัญหาด้านปัญหายาเสพติด ยึดมั่นในแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความมั่นคงทางอาหาร และใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีเครือข่ายจิตอาสาในการสร้างความดีให้เกิดขึ้นในชุมชน มีชมรมผู้สูงอายุเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนา โดยเฉพาะการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 พร้อมทั้งได้บูรณาการร่วมกับโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน และโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โดยมุ่งหวังบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ทำให้ทุกหมู่บ้านเป็น “หมู่บ้านศีลธรรม” เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นและมีความสุขอย่างยั่งยืน
พระเทพปวรเมธี ประธานกรรมการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง รองเจ้าคณะภาค 15 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กล่าวว่า เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้โปรดมีพระบัญชาแต่งตั้งให้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เป็นองค์ประธานอำนวยการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำปี 2566 ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ประทานโอวาทในการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนโครงการฯ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยกำหนดกรอบ ทิศทาง แนวนโยบาย และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนโครงการฯ เชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านจิตใจของพุทธศาสนิกชน โดยยึดหลัก “ไตรสิกขา” ธรรมะแห่งการพัฒนาชีวิตให้ประสบความสำเร็จตามหลักพระพุทธศาสนาเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมทั้งมอบหมายให้เจ้าคณะผู้ปกครอง ได้ใช้ “สำนักปฏิบัติธรรม” ที่มีในทุกจังหวัดทั้ง 1,756 แห่ง เป็นศูนย์กลางดำเนินงานโครงการฯ บูรณาการร่วมกันกับศิลปวัฒธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ความเป็นตัวตนของชุมชน การประกอบสัมมาชีพ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้การพระพุทธศาสนาดำเนินควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยู่สืบไป
พระเทพเสนาบดี รองประธานกรรมการบริหารกลาง เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เจ้าอาวาสวัดกวิศราราม ราชวรวิหาร กล่าวว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ที่เดินทางมาในวันนี้ โดยมีพระเดชพระคุณ พระธรรมรัตนมงคล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการบริหารกลางโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 พระเทพปวรเมธี ประธานกรรมการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง และคณะกรรมการฯ ร่วมลงพื้นที่ในวันนี้ ขอชื่นชมคณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมือง รวมทั้งผู้บริหารท้องถิ่น และประชาชนชาวบ้านวัดใหม่ จังหวัดสิงห์บุรี ที่ช่วยกันขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 อย่างได้ผล และผลของความสำเร็จนี้ คณะสงฆ์จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับจังหวัดสิงห์บุรีคัดเลือกให้ “หมู่บ้านบ้านวัดใหม่” เป็นหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ซึ่งคณะสงฆ์ผู้เป็นคณะกรรมการฯ ที่ลงพื้นที่ ทั้งหนเหนือ ใต้ และภาคตะวันออก เราทำงานร่วมกัน เพื่อให้ศีล 5 เป็นมาตรฐานของมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ทุกคนรักษาได้หมด ท่านใดรักษาได้ทำให้ชีวิตมีความสุข เพราะศีล 5 เป็นหลักประกันชั้นดีในการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในสังคม เป็นหลักประกันคุณภาพชีวิต ศีลข้อ 1 ทำให้ชีวิตปลอดภัย ศีลข้อ 2 ทรัพย์ไม่เสียหาย ศีลข้อ 3 ทำให้ครอบครัวอบอุ่น ศีลข้อ 4 ทำให้สังคมสงบสุข และศีลข้อ 5 ทำให้มีสุขภาพดี และก่อนมาที่แห่งนี้คณะสงฆ์พร้อมด้วยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ไปมอบสิ่งของในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอัคคีภัยที่ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี เพื่อแสดงให้เห็นถึงสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการแบ่งปันและเอื้อเฟื้อ ความเมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก โดยสิ่งของที่มามอบให้วันนี้ได้รับความเมตตาจากพระครูปลัดสุวัฒนเถรคุณ รองเจ้าคณะอำเภอภาชี เจ้าอาวาสวัดตะโก (วัดหลวงพ่อรวย) และวัดกลางบางพระ หรือวัดหลวงพ่อสมหวัง จังหวัดนครปฐม ผู้เป็นพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ เพื่อทำให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ที่มา - https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/71623
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น