วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2566

82 ปี กรมการศาสนา สืบสาน“วันศาสนูปถัมภ์” ด้วยความสำเร็จที่ก้าวหน้า สู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน



เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า กรมการศาสนากำหนดจัดงาน “วันศาสนูปถัมภ์” เนื่องในโอกาส อันเป็นมงคลครบ 82 ปี แห่งการสถาปนากรมการศาสนา ในวันที่ 20 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น 2 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเป็นเกียรติภายในงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนองค์การศาสนา อดีตผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า กรมการศาสนา เป็นหน่วยงานที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยมาช้านาน ได้เรียกขานตามยุคสมัยในชื่อว่า กรมสังฆการี กรมธรรมการสังฆการี กรมธรรมการ มีภารกิจหน้าที่สำคัญของชาติในด้านการพระศาสนาต่างพระเนตรพระกรรณของพระมหากษัตริย์ ครั้นในปีพุทธศักราช 2484 คำว่า “กรมการศาสนา” ได้มีปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2484 และในปีพุทธศักราช 2566 นี้ จึงเป็นปีที่ปรากฏชื่อว่า “กรมการศาสนา” ครบ 82 ปี นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสอันเป็นมงคลในวาระครบรอบ 59 ปีแห่งวันศาสนูปถัมภ์ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2507 ได้มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลเป็นครั้งแรก เพื่ออุทิศบรรพชนผู้ที่อุปถัมภ์บำรุงพระศาสนาที่ ส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน ซึ่งบรรพชนเหล่านั้นเป็นผู้ทำให้พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนผาสุกมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ ปัจจุบันกรมการศาสนา เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐด้านศาสนา โดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมและให้ความอุปถัมภ์คุ้มครองกิจการด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม ส่งเสริมความเข้าใจอันดี และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้คนไทยนำหลักธรรมของศาสนามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เป็นคนดีมีคุณธรรม โดยแบ่งส่วนราชการเป็น สำนักงานเลขานุการกรม กองศาสนูปถัมภ์ และสำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม 

@siampongnews น้ำหอม#ครูกายแก้ว ♬ Thank You for Being You - OctaSounds

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมการศาสนาได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานด้านศาสนา โดยได้นำนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ได้กำหนดไว้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยหลักธรรมาภิบาลและการสร้างคุณค่าทางสังคม (Value Creation) และในปี พ.ศ. 2566 กรมการศาสนา “ก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 หรือ 2 ทศวรรษ ภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม” กรมการศาสนา จึงได้ดำเนินการพลิกโฉมกรมการศาสนาขับเคลื่อนนโยบาย “9 ดี 12 เดือน 12 เด่นนำธรรมะสู่ใจประชาชน” โดยผลักดันให้วัดและศาสนสถานทุกศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ตลอดจนพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมในทุกช่วงวัย ที่สำคัญนำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในกิจกรรมทางศาสนา เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง และคนมีความสุข นอกจากนี้ในปีนี้ กรมการศาสนา ยังคงเร่งดำเนินขับเคลื่อนภารกิจด้านการทำนุบำรุง ส่งเสริม และให้การคุ้มครองกิจการด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ที่ทางราชการรับรอง ตลอดจนส่งเสริม พัฒนาความรู้คู่คุณธรรม ส่งเสริมความเข้าใจอันดีและสร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้คนไทยนำหลักธรรมของศาสนามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เป็นคนดีมีคุณธรรมงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมถือเป็นภารกิจสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำให้งานด้านศาสนามีความสำเร็จที่ก้าวหน้า สู่อนาคตมั่นคงและยั่งยืนอยู่คู่สังคมและประเทศชาติสืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...