เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เครืองบินส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ได้แตะแผ่นดินไทยที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานครเวลา 09.00 น. และเดินออกมาที่บริเวณด้านหน้าอาคารเอ็มเจ็ตเพื่อถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่บริเวณด้านหน้าซึ่งสื่อมวลชนรอติดตามบันทึกภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนี้
โดยที่โซนวีไอพี บริเวณอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล (MJetS) ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว มวลชนคนเสื้อแดงได้ปักหลักบริเวณริมถนนเพื่อต้อนรับนายกในดวงใจหลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเช่นบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ขณะที่เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานได้เปิดลงทะเบียนดำเนินการตรวจ สอบรายชื่อสื่อมวลชนที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เวลา 05.30 น. โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาติดตามนำเสนอข่าวประมาณเกือบ กว่า 600 คน
@siampongnews นาทีประวัติศาสตร์! #ทักษิณถึงไทย ถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ #ข่าวtiktok #tiktokshopครีเอเตอร์ ♬ เสียงต้นฉบับ - ดร.สำราญสมพงษ์นักข่าวป.ธ.5
นอกจากนี้ยังมีบรรดานักการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนยุคเก่า จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ได้ทยอยมารอรับ จำนวนมาก ทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายวรวัฒน์ เอื้ออภิญญากุล นาย เกรียง กัลป์ตินันท์ นางมุกดา พงษ์สมบัติ นางสมหญิง บัวบุษ นางพวงเพชร ชุนละเอียด ดร.นิยม เวชกามา อดีตส.ส.สกลนครและคณะ
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นหนึ่งในผู้เดินทางมาต้อนรับ โดยกล่าวว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาไม่ใช่ฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่มาในฐานะลูกหลานคนหนึ่ง โดยครอบครัวศิลปอาชากับครอบครัวชินวัตรของเราสนิทสนมกันอย่างดี โดยเมื่อสมัยคุณพ่อและทางพรรคก็ทำงานร่วมหัวจมท้ายทำงานกันเรื่อยมาตลอด ซึ่งวันนี้ตนเองและพี่นา(กาญจนา)ก็รู้สึกดีใจที่คุณอา(อดีตนายกฯทักษิณ)จะได้กลับมาสักที ซึ่งท่านก็เห็นตนมาตั้งแต่ยังเด็ก ครอบครัวของเราทั้งสองรักใคร่ชอบพอกันดี เชืรอว่าถ้าคุณพ่อยังอยู่ม ก็คงอยากให้ตนมารับท่านอดีตนายกฯทักษิณกลับบ้าน
โดยบรรยากาศในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่นายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) โดยระบุว่า "9 โมงเช้า ขออนุญาตกลับไปอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยและร่วมอากาศหายใจกับพี่น้องคนไทยด้วย" พร้อมกันนี้บีบีซีไทย รายงานภายหลังส่งข้อความสอบถามความรู้สึกของนายทักษิณว่า "ตื่นเต้นนิดหน่อย" และบินมาไทยกัน "3-4 คนครับ"
ส่วนกรณีที่วานนี้ มีภาพนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าตรวจความเรียบร้อย ณ สนามบินดอนเมืองนั้น นายทักษิณ บอกว่า วันนี้ เขาให้อภัย "ทุกคน" แล้ว ส่วนเมื่อเดินทางกลับไทยแล้ว กรมราชทัณฑ์จะควบคุมตัวเขาไปที่ไหนนั้น นายทักษิณ ระบุว่า "ไม่ได้คุยครับ"
ทางด้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน ได้โพสต์ภาพการมาส่งพี่ชายนายทักษิณได้ขึ้นเครื่องบิน เดินทางกลับประเทศไทย พร้อมสวมกอดด้วยสีหน้าค่อนข้างเศร้า โดยวันเดียวกันนี้นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สูทสีกรมท่า เน็คไทสีแดงพร้อมกางเกงสแล็ค มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมข้อความว่า
"และแล้ววันที่พี่รอคอยก็มาถึง ตลอดเวลา 17 ปี พี่คงจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ทุกข์ และคิดถึงบ้านมากแต่พี่ก็ต้องอดทน และน้องเชื่อว่าพี่ก็คงใช้เวลาคิดตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายด้วยความคิดถึงครอบครัวและอยากใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิดของเรา น้องก็เคารพในการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของพี่ครั้งนี้ น้องขอเก็บภาพความทรงจำที่ได้ร่วมเดินทางจากดูไบมาส่งพี่ จนถึงเครื่องบินก่อนที่จะกลับเมืองไทย
น้องขอให้พี่โชคดี เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ทุกอย่างราบรื่น และอย่าลืมรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ พี่ไม่ต้องห่วงน้องนะ น้องจะเข้มแข็ง อดทน และจะดูแลตัวเองแม้อยู่ในต่างที่ ต่างบ้าน ต่างเมืองคนเดียว เพราะตลอด 6 ปีที่น้องจากบ้านเกิดมา น้องมีพี่คอยดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะนี้คือครั้งแรกที่เราไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตามขอให้วันเวลาที่พี่ตั้งตารอที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัววันนั้นมาถึงโดยเร็ว โชคดีนะคะพี่ รักพี่เสมอพี่ชายที่แสนดีของน้องค่ะ"
ส่วนของครอบครัว ในช่วงเช้าน.ส. ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือ แซนด์ หลานสาว เดินทางมาถึงแต่เช้า โดยมีรายงานว่าในส่วนของครอบได้เข้ามารอ ที่ห้องรับรองวีไอพี MJETS จะมาต้อนรับได้แก่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อุ๊งอิ๊ง แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และน.ส.พิณทองทา คุณากรวงศ์ 'เอม' บุตรสาวคนกลาง ซึ่งจะนำครอบครัว โดยเฉพาะลูกทั้งหมดมาพบคุณตาเป็นครั้งแรกแบบพร้อมหน้า โดยเฉพาะ "น้องธาษิณ" ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ รวมทั้ง บุตรฝาแฝดของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต พี่จะมาพบคุณปู่ด้วย ขณะที่นายพานทองแท้จะเดินทางกลับมาพร้อมนายทักษิณจากสิงคโปร์
โดยขั้นแรกภายหลังนายทักษิณลงเครื่องบิน ส่วนตัวแล้วเจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)ก็จะรับตัวและทำบันทึกการจับกุมต่างๆตามขั้นตอนและเอกสาร ขณะที่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่หมายศาลเป็นผู้พิจารณาและตัดสิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น