วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เปิดตัว “น้องปลื้ม” เยาวชนนักพากย์โขนรุ่นใหม่ “กุมภกรรณทดน้ำ”

 

นับเป็นความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของปลื้ม-กิตติศักดิ์  รอดประเสริฐ  นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในนักพากย์-เจรจา โขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” ระหว่างวันที่ ๕ พฤศจิกายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 

 “กิตติศักดิ์” เล่าว่า เติบโตในครอบครัวคนโขน มีคุณตาบุญเหลือ แซ่คู หัวหน้าคณะโขนสดคณะประยุทธ ดาวใต้ กรุงเทพฯ เป็นผู้ฝึกสอน จึงได้เริ่มเรียนรู้และฝึกหัดเล่นโขนสดตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เมื่อโตขึ้นอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๑  หัดรำ หัดออกหน้าพาทย์ หัดร้องโขนสดและหัดแสดงเป็นตัวยักษ์ ลิง และหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ พออายุ ๑๕  ปีก็ได้ออกแสดงเป็นยักษ์ เช่น ยักษ์อาสา ยักษ์กองลาดตระเวนและลิง ซึ่งโขนสดเป็นการแสดงพื้นบ้านที่นำศิลปะหลายแขนงมารวมไว้ทั้งฉากเปลี่ยนได้ นักแสดงแต่งหน้าเหมือนลิเก ใส่หัวโขนประมาณครึ่งหน้าผาก ใช้เพลงหน้าพาทย์เชิด  มีการร้องเอง พูดเอง เล่นเสียงและด้นกลอนไปเรื่อยๆ และการเต้น เช่น ท่ายักษ์ ท่าลิง จะมีท่าของโขนสด ทำให้โขนสดมีความยากทั้งการร้อง การเต้น และที่ยากที่สุดคือ การเล่นดนตรีให้จังหวะเพราะต้องรู้ว่าพระ นาง ยักษ์ เต้นจังหวะช้า และลิงเต้นจังหวะเร็ว 

 ด้วยความรักการแสดงโขนเป็นชีวิตจิตใจ หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ “กิตติศักดิ์” เลือกเข้าเรียนสาขานาฏศิลปไทย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม และฝึกพากย์โขนกับครูสุธีร์ ชุ่มชื่น อาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นเวลา ๒ ปี  กระทั่งได้รับโอกาสสำคัญในชีวิตโดยได้รับคัดเลือกจากครูสุธีร์ให้เป็นหนึ่งในนักพากย์-เจรจาโขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” โดยพากย์ตัวพระราม 



 “กิตติศักดิ์”เริ่มฝึกซ้อมมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาต้องปรับตัวเยอะเพราะการพากย์โขนสด พูดธรรมดา ไม่ได้มีทำนอง ขณะที่โขนพระราชทานฯต้องพากย์เป็นทำนอง มีจังหวะ ต้องทำเสียงตามบุคลิกและอารมณ์ของตัวละคร เช่น ตัวพระเสียงเข้มแข็ง ตัวยักษ์เสียงดุดัน ตัวลิงเสียงว่องไว  เมื่อพากย์ตัวพระราม จึงต้องฝึกเสียงให้มีพื้นฐานและมีพลัง  รวมทั้งฝึกพากย์เจรจา การเดินทำนอง เช่น พากย์รถ ชมความงามของราชรถที่มุ่งหน้าจากสถานที่หนึ่งไปสถานที่หนึ่ง การเจรจาโต้ตอบกัน  และโขนพระราชทานฯ มีหัวโขน ชุดโขนที่วิจิตรงดงาม การร้อง ท่ารำเป็นแบบแผนโบราณ อ่อนช้อยงดงาม และมีฉากอลังการ  เช่น ตอนที่กุมภกรรณรบ จะมีหุ่นเชิดตัวใหญ่ออกมารบกัน 

“เป็นครั้งแรกที่เข้ามาร่วมแสดงโขนพระราชทานฯ  ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้ามาได้ ตอนเด็กเคยมาดู  ใฝ่ฝันสักวันจะได้มายืนอยู่บนเวทีการแสดงนี้ ก็ได้มายืนอยู่บนเวทีนี้จริงๆ เป็นเวทีใหญ่ที่สุดของชีวิต ปกติจะพากย์โขนตามงานของวิทยาลัยนาฏศิลป  รู้สึกภูมิใจมากได้ทำสิ่งที่รักและฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก  และมีโอกาสสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์โขนศิลปะการแสดงอันงดงามของชาติ ” กิตติศักดิ์ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ 

“กิตติศักดิ์”นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเยาวชนไทยที่มีใจรักในการแสดงโขนและมีความตั้งใจที่จะสืบสานอนุรักษ์ศิลปะการแสดงโขนมรดกศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของชาติให้คงอยู่ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ

  วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแ...