เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 4 บ้านพิมาย ต.พิมาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือดาบวิชัย ซึ่งเสียชีวิตอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษในวัย 77 ปี เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา โดยเวลา 16.00 น. นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีน้ำหลวงอาบศพ ในการนี้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เป็นตัวแทนมอบพวงหรีดและเงินร่วมทำบุญกับครอบครัว ร.ต.ต.วิชัย นอกจากนี้ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เป็นตัวแทน พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 มอบพวงหรีด และพ.ต.ท.อิทธิพล กริสว่าง รองผกก.ป.ปรท.ผกก.สภ.ปรางค์กู่ มอบพวงหรีด ในนาม สภ.ปรางค์กู่ และร่วมพิธีน้ำหลวงอาบศพ
ทั้งนี้พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า หลักสูตรสันติศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งนำโดย พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและวิทยาลัยวิทยาศาสตร์นานาชาติ มจร เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมและร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของร.ต.ต.วิชัย เจ้าของประโยคทองว่า "ผมจะปลูกต้นไม้จนกว่าผมจะตาย" โดยดาบวิชัยถือว่าเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างคุณค่าสร้างมูลค่าให้กับพื้นที่ดิน โดยมีพระวิเทศวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำอเมริกา สหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ด้วย
วาระโอกาสนี้พระเมธีวัชรบัณฑิต ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา มจร เป็นการปรารภธรรม โดยมีประเด็นสำคัญว่า พ่อดาบวิชัยเป็นคนศรีสะเกษมุ่งปลูกต้นไม้หลายล้านต้น แต่แท้จริงพ่อดาบวิชัยเป็นคนของประเทศและคนของโลก ยืนยันโดยรางวัลต่างๆ ที่ได้รับ ซึ่งนิสิตสันติศึกษา มจร ทุกรุ่นต้องมารับแรงบันดาลใจจากดาบวิชัย โดยทุกสื่อในประเทศไทยออกข่าวพ่อดาบวิชัยซึ่งเป็นแบรนด์ของศรีสะเกษที่อุทิศตนเพื่อผู้อื่น สอดรับ พระพุทธศาสนาผ่านประโยคว่า "ผมตายไปแต่ต้นไม้ยังอยู่" ซึ่งต้นไม้ยังเตือนใจเรา ซึ่งเป็นลมหายใจของพ่อดาบวิชัยเป็นลมหายใจสีเขียว ซึ่งลมหายใจของพ่อดาบวิชัยกับต้นไม้เป็นลมหายใจเดียวกัน ซึ่งต้นไม้ทุกต้นที่พ่อวิชัยปลูกจะจดจำตลอดไป
ในอดีตปรางค์กู่เป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย แต่พ่อวิชัยสร้างอนุสาวรีย์คือต้นไม้ในอำเภอปรางค์กู่ โดยสิ่งสำคัญพ่อวิชัยได้ส่งต่อถึงคนรุ่นใหม่ในการทำโคกหนองนา เป็นคันแททองคำสร้างคุณค่าสร้างมูลค่า มีอีสานบ้านแตกโมเดลสร้างมูลค่าให้คนอีสานอย่างชัดเจนดึงคนอยู่ในชุมชนของตนเอง สิ่งสำคัญคือ พ่อวิชัยปั้นคนรุ่นใหม่ โดยพัฒนาเด็กเยาวชนรุ่นใหม่ให้สามารถพึ่งตนเองได้เป็นการสร้างการพัฒนาที่มีความยั่งยืน หรือ SDG ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ได้แรงบันดาลใจ ซึ่งสิ่งสำคัญพ่อวิชัยใช้แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองตามแนวทางของรัชกาลที่ 9 มุ่งให้คนอยู่บ้านตนเองไม่ให้ออกไปทำงานต่างจังหวัดสอดรับดับแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ดังนั้น ดาบวิชัยจึงควรได้รับการบูชา เราจึงมาร่วมกัน " บูชาร่าง บูชารูป และบูชารอย" โดยสิ่งที่พ่อวิชัยได้ทำสอดรับกับแนวทางของพระพุทธเจ้าว่า "บุคคลใดปลูกต้นไม้ ขุดน้ำบ่อ ก่อศาลา สร้างสะพาน จะได้บุญทั้งวันและกลางคืน" จึงขอพลังบุญที่พวกเราได้ทำจงส่งผลให้พ่อสู่ภพภูมิที่ดีงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น