เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนขอสนับสนุนที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เตรียมแถลงประกาศแก้หนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพราะเห็นว่าเรื่องหนี้สิน เป็นเรื่องสำคัญมากกับชีวิตความเป็นอยู่โดยตรงของพี่น้องประชาชน ขอให้นายกฯและรัฐบาลทำอย่างจริงจังแบบครบวงจร พร้อมยกให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดและต่อเนื่องจนเห็นผลเป็นรูปธรรม
ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ส่วนใหญ่มาจากเงินที่อยู่นอกระบบสถาบันการเงิน ต้องมีกฎหมายควบคุมการคิดดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด หากการให้กู้ยืมเงินนอกระบบต้องไม่คิดดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี หากคิดดอกเบี้ยโหด สูงกว่านั้นถือว่าผิดกฎหมาย นอกจากนั้น รัฐบาล โดยฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรลงไปตรวจสอบผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ที่มักจะปล่อยเงินกู้จำนวนมากๆ ว่ามีแหล่งเงินมาจากไหนมาจากเงินสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมาย การพนัน และยาเสพติดด้วยหรือไม่ เป็นการฟอกเงินผ่านการให้กู้ยืมอีกทอดหนึ่งหรือไม่
“ผมจึงขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ ดำเนินการกวาดล้างมาเฟียผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่อาจใช้ช่องทางนี้ นำเงินสีเทาผิดกฎหมาย มาฟอกผ่านการปล่อยกู้ให้แก่ประชาชน และมีทีมทวงหนี้โหดไปทำร้ายร่างกายลูกหนี้ที่ผิดนัด จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าวมาจำนวนมากแล้ว” นายธนกร ระบุ
เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาหนี้สินจะช่วยประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาวได้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า คนเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่จะทำอย่างไรหากไม่มีรายได้ที่เพียงพอใช้หนี้ สุดท้ายแล้วก็อาจจะกลับมาเป็นหนี้ใหม่อีก ตนจึงมองว่า รัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน ต้องทำควบคู่ไปกับการช่วยปลดลดหนี้สิน จะเป็นทางออกช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคง และจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนแบบยั่งยืน
“พรรครวมไทยสร้างชาติ ผ่าน 4 กระทรวง ก็เดินหน้าโครงการฝึกทักษะอาชีพ เพิ่มรายได้สร้างเศรษฐกิจในชุมชนต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจวินัยการใช้เงิน เพื่อลดปัญหาหนี้ครัวเรือน หากรัฐบาลมีนโยบายแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบออกมาช่วยประชาชนเพิ่มเติมด้วย ก็เชื่อว่า จะเป็นการทั้งสร้างรายได้ให้ประชาชนมีเพียงพอ ควบคู่ การแก้หนี้สิน จะทำให้มีความมั่นคงในชีวิต เกิดความเข้มแข็งยั่งยืนได้ในอนาคต”นายธนกรกล่าวย้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น