วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566



โฆษกรัฐบาลเผย เครือข่ายลูกหนี้ชื่นชมรัฐบาลทำงานเชิงรุกเดินหน้าแก้หนี้มิติใหม่ ภายหลังนายกฯ เตรียมประกาศ “มาตรการแก้หนี้ทั้งระบบ” ปลาย พ.ย. นี้

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566  นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะแก้ไขสถานการณ์หนี้ของประชาชนรายย่อย เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาวอย่างเป็นระบบ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เร่งเดินหน้าทำงานแก้หนี้นอกระบบตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างเอาจริงเอาจัง โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่าจะประกาศ “มาตรการแก้หนี้ทั้งระบบ” ในปลายเดือน พ.ย. นั้น เครือข่ายลูกหนี้ได้ออกมาชื่นชมรัฐบาลที่ทำงานเชิงรุกเดินหน้าแก้หนี้มิติใหม่ให้กับประชาชน  

 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้หยิบยกการให้สัมภาษณ์ของนายอาจิน จุ้งลก ประธานมูลนิธิเพื่อการปฏิรูปสิทธิลูกหนี้ กับ The ACTIVE Thai PBS ว่า คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยมีความเชี่ยวชาญ และเกาะติดการทำงานด้านหนี้มานานกว่า 3 ปี เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงต้องอาศัยความกล้าตัดสินใจของรัฐบาล โดยยกเรื่องการปรับลดหนี้ กยศ. ซึ่งเป็นการเคาะมาตรการผ่านมาจากบอร์ดแก้หนี้ฯ ซึ่งถือเป็นการนำเอากฎหมายออกมาใช้บังคับจริง โดยเฉพาะผู้จัดการ กยศ. ที่ไม่เคยใช้มาตรการเหล่านี้ในการลดหนี้ เอื้อประโยชน์ให้ประชาชนผู้ค้ำประกัน 3.2 ล้านคน ปลดหนี้ได้ตามกฎหมายใหม่ ย้ำให้ลูกหนี้ กยศ. อย่าลังเล รีบไปที่กรมบังคับคดี เพราะการเดินหน้าของรัฐบาลรอบนี้ ลูกหนี้ได้ประโยชน์อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันยังเป็นมาตรการที่ช่วยสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด พร้อมขอบคุณที่รัฐบาลกล้าตัดสินใจเรื่องนี้ให้เป็นของขวัญปีใหม่ ปลดล็อคผู้ค้ำประกันหลายล้านคน ถือว่าเป็นการทำงานเชิงรุกอย่างแท้จริง

 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นายอาจินยังให้ความเห็นถึงการแก้หนี้ข้าราชการ ครู ตำรวจ ฯลฯ ที่รัฐบาลจะเตรียมเดินหน้าว่า จุดเริ่มต้นของการหยิบนโยบายแก้หนี้มาจากการขับเคลื่อนนโยบายแก้หนี้ครูจากรายการ “นโยบาย by ประชาชน” ทางไทยพีบีเอส ไปต่อยอด และเป็นหนึ่งในทีมของคณะกรรมการแก้หนี้ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงมีความมั่นใจว่าการแก้ปัญหาหนี้สินของประเทศไทยจะเดินหน้าไปถูกทิศถูกทางมากขึ้น โดยมีข้อเสนอเพิ่มเติมขอให้รัฐบาลเร่งแก้ “หนี้นอกระบบ” ที่ต้องมี ศูนย์ One Stop Service เกิดขึ้นให้ประเทศไทยปราบเจ้าหนี้นอกระบบได้ และควรปรับโทษให้รุนแรง มีรางวัลนำจับสำหรับเจ้าหนี้ที่ไร้ธรรมาภิบาล เนื่องจากคณะทำงานชุดนี้ มีตัวแทนจากรอง ผบ.ตร.ด้วย นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้แก้หนี้นอกระบบด้วยการตั้งกองทุนฯ เพื่อให้คนไทยปลดหนี้นอกระบบ มีความมั่นคงโดยไม่ถูกทำร้ายข่มขู่ และแนะเพิ่มกำลังคน 2 แสนคนที่พร้อมทำเรื่องนี้เป็น “หมอเงิน หมอหนี้” กระจายอยู่ในทุกชุมชน เพื่อปล่อยกู้ และเก็บเงินแทนเจ้าหนี้นอกระบบ โดยนายอาจินย้ำว่า มาตรการการเอกซเรย์หนี้นอกระบบจากบ้านและชุมชน ถือเป็นมาตรการเชิงรุก มิติใหม่การแก้หนี้ ที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน

 “สำหรับประเด็นหนี้ กยศ. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกิตติรัตน์ฯ ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่าขณะนี้ กยศ. อยู่ระหว่างดำเนินการคำนวณยอดหนี้ของลูกหนี้ใหม่ โดย กยศ.ได้ขอให้กรมบังคับคดีชะลอการบังคับคดี และชะลอการยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาด เพื่อรอผลการคำนวณยอดหนี้ใหม่ก่อน ซึ่งในบางกรณีเมื่อคำนวณยอดหนี้ใหม่แล้ว ลูกหนี้อาจไม่มีความจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดเลย เพราะหนี้ที่คำนวณใหม่ลดลงมาก ขณะที่นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ.ยืนยันว่า ลูกหนี้ กยศ.ทุกรายจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายใหม่ เช่น การลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จากเดิม 18% นอกจากนี้ กยศ.จะเปิดให้ปรับโครงสร้างหนี้ โดยผู้ค้ำประกันเดิมทุกคนที่มีภาระอยู่ จะหลุดพ้นจากภาระค้ำประกัน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์

  วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23: พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พระไตรปิฎกเล...