เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 คณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายวีระพล กิจสัมฤทธิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการคนที่ หนึ่ง ทำหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการ และคณะประกอบด้วยนายสมศักดิ์ บุญประชมกรรมาธิการ นางสาวสกุณา สาระนันท์ กรรมาธิการ ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการธิการ นายปกรณ์เกียรติ ญาณหาร นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำคณะกรรมาธิการ เดินทาง ลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงาน ด้านการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ณ จังหวัดเชียงใหม่
เวลา 14:00 น ประชุม ติดตามความคืบหน้าเรื่อง การขอออกโฉนดที่ดินของวัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 16 เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย และผู้แทนวัดพระธาตุดอยคำ โดยมีหลวงพ่อพระครูสุนทรเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ และคณะกรรมการวัด นางอารีย์ พันธุ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยาน แห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย นายเดชา จันทร์ลาย ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงาน จากหัวหน้า อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย (นายภูพิชิต ช่วยบำรุง) ว่าเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาผลการตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานสารบบที่ดิน และการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในรายของวัดพระธาตุดอยคำที่ขอออกโฉนด ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ แจ้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย ไปดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเห็นชอบให้ออกโฉนดที่ดินให้กับวัดพระธาตุดอยคำ จำนวน 7 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา ซึ่งขั้นตอนต่อไป หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ - ปุย จะได้แจ้งมติดังกล่าว ไปยังเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดิน ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) แก้ไขเพิ่มเติม ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 59 (พ.ศ. 2566) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ต่อไป
จากนั้นเวลา 15:30 น เดินทางไปร่วมประชุม เพื่อรับทราบแนวทางในการแก้ไขปัญหา การทำสัญญาเช่าที่ธรณีสงฆ์ของวัดดาวดึงษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดย ได้รับความเมตตาจาก พระครูวิทิตศาสนาธร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรวิหาร เจ้าคณะ ตำบล หายยา และเจ้าอาวาสวัด ดาวดึงส์ ให้การ ต้อนรับ ดังนี้ ได้มีไวยาวัจกรวัดดาวดึงษ์ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนผู้เช่าที่ธรณีสงฆ์ของวัดเข้าร่วมประชุม กับคณะกรรมาธิการ ณ วิหารวัดดาวดึงษ์
คณะกรรมาธิการได้รับทราบ ข้อเท็จจริงจาก เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษ์ ว่าได้มีการทำสัญญาเจ้าหน้าที่ธรณีสงฆ์กับราษฎร ผู้เช่า จำนวนกว่า 70 ราย ซึ่งเป็นการทำสัญญาเช่าใหม่รายปี ตามระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด แม้นจะมีผู้เช่าที่เห็นว่าเป็นการขึ้นค่าเช่าโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งทางวัดยืนยันว่าได้มีการดำเนินการปรับอัตราค่าเช่าและทำสัญญาเช่าโดยเรียกเก็บอัตราค่าเช่า ตามระเบียบที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด เป็นอัตราค่าเช่าที่ดินศาสนสมบัติกลาง และวัดรางเพื่อผู้เช่าใช้อยู่อาศัย ทั้งนี้ หากผู้เช่ารายได้เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ พร้อมที่จะเจรจา เพื่อให้ได้ข้อยุติ
อย่างไรก็ตามทคณะกรรมาธิการ โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ได้รับการตรวจสอบ สัญญาเช่า ในรายที่มีการร้องเรียนขอให้ทางวัดทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดการเช่า สัญญาเช่า และอัตราค่าเช่า ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบหากพบเป็นไปตามระเบียบ หรือชอบด้วยกฎหมายแล้ว ให้แจ้งผลการพิจารณานั้นให้คณะกรรมาธิการทราบ เพื่อพิจารณาแจ้งให้ผู้ร้องทราบ และกำหนดแนวทางการทำสัญญาเช่าที่วัด ทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กรณีที่วัดเรียกเก็บค่าบำรุง หรือค่าใช้จ่ายอื่นนอกจาก ค่าเช่าที่ดังกล่าวนั้นว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งจะนำกลับไปหารือ กับส่วนกลางต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น