เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี รัฐบาลทยอยออกนโยบายและมาตรการเร่งด่วนเป็นแพ็คเกจเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพของประชาชน แต่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าเป็น 4.68 บาท/หน่วย ทำให้นายกฯถึงกับประกาศยอมรับไม่ได้ เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เตรียมเรียกประชุมบอร์ด กกพ.ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นนายกรัฐมนตรีที่ขยันทำงาน ทุ่มเททุกสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ตัวเลขที่กกพ.เสนอมา น่าจะยังสามารถประชุมหาทางออกร่วมกันได้ เพราะถ้าขึ้นเยอะเกินไป ประชาชนก็เดือดร้อน ต้องจัดสมดุลย์ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้
รัฐบาลพยายามดำเนินการตามแนวทางนโยบาย ลดค่าครองชีพ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ให้ประชาชนเป็นแพ็คเกจ ทั้งนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แก้หนี้นอกระบบ–ในระบบ ปลดพันธนาการประชาชนไม่ให้เป็นทาสยุคใหม่ โครงการปั้น 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ยกระดับสินค้าโอทอป เสริมเรื่องการตลาดเพื่อนำสินค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไปสู่สายตาชาวโลก ยกระดับสตาร์ตอัพสู่ธุรกิจมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปั้นยูนิคอร์นไทยให้มากขึ้น ใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง ลดราคาน้ำมัน รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เคาะปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 18,000 บาทต่อเดือน ปรับฐานเงินเดือนข้าราชการเก่า และเตรียมปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชนอย่างเป็นระบบ
“รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการแค่เรื่องเฉพาะหน้า แต่ภารกิจเร่งด่วน “ควิกวิน”ต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว ส่วนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษฯ ก้าวข้ามความขัดแย้ง รัฐบาลก็ให้ความสำคัญและสามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้” นายอนุสรณ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น