วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

"สมศักดิ์"มีพระครูนำไกล่เกลี่ยแก้หนี้ครั้งที่ 7 สุราษฎร์ธานี หนุนสร้างอาชีพเพิ่มรายได้แก้จน



รมว.ยุติธรรมบุกถิ่นหอยใหญ่ลุยจัดงานแก้หนี้ มีพระครูวัดไชยาร่วมช่วยไกล่เกลี่ย ชี้ต้องเร่งสร้างงานสร้างอาชีพให้ปชช.มีรายได้ยั่งยืน ผุดไอเดียเลี้ยงแพะส่งนอก สั่งดีเอสไอเร่งสืบสวนคดียักยอกสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่  

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565 ที่ โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี และยุติธรรมพบประชาชน โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี , ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม , นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงาน

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ขอบคุณ รมว.ยุติธรรม ที่ตระหนักถึงปัญหา และลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากภาวะหนี้สิน และได้สร้างงานสร้างอาชีพ โดยเฉพาะการปลดล็อกพืชกระท่อม จนชาวบ้านสามารถใช้ตามวิถีชีวิตและเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง จนนายสมศักดิ์ได้รับการเรียกขานว่า บิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ตนขอเป็นตัวแทนขอบคุณ และขอให้งานนี้และประสบความสำเร็จ



ด้าน นายสมศักดิ์ เผยว่า งานวันนี้เรามีจำนวนลูกหนี้ที่เชิญเข้าร่วมงาน 7,553 ราย แบ่งออกเป็น ก่อนฟ้อง 5,998 ราย หลังศาลพิพากษา 1,555 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 1,692 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยไปแล้ว 6 ครั้ง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 7,929 ราย ทุนทรัพย์ 2,155 ล้านบาท ขอบคุณกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสถาบันการเงินที่เข้าร่วมมหกรรม คือ บริหารสินทรัพย์ เจ บริษัท KBJ แคปปิตอล ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธ.อ.ส. ธนาคารอิสลาม บริษัท JMT บริการสินทรัพย์สุขุมวิท และบริษัทโตโยต้า ลิสซิ่ง

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อท่านไกล่เกลี่ยจบแล้ว เราก็มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม ซึ่งจากการลงพื้นที่ของ ครม. พบว่า เรื่องปศุสัตว์นั้นไปได้ เพราะมีเป็นล้านคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ที่นิยมวัวกีฬา เป็นอย่างมาก เราสามารถขับเคลื่อนให้คนลงทุนได้ ถ้าย้อนหลังไป 20 ปี สมัยตนเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีแนวคิดเรื่องการเลี้ยงสัตว์ควบคู่กับการปลูกพืช ขณะนี้ตนได้มีโอกาสหารือกับ รมต.สำนักนายกฯ นำกองทุนหมู่บ้านมาช่วยให้เงินกู้ เลี้ยงวัว ซึ่งนำร่องไปที่ จ.สุโขทัยแล้ว แต่ภาคใต้เลี้ยงเยอะแล้ว เราอาจจะปรับมาเลี้ยงแพะ โดยรวมกลุ่มกัน และขอตราฮาลาล เพื่อส่งออกไปยังซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ จะเป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ประชาชน

"เราจะไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อรัฐบาลช่วยแก้หนี้ให้แล้ว เราก็ยังจะสร้างงานสร้างอาชีพให้ทุกท่านด้วย เพราะการแก้หนี้เป็นเพียงปลายน้ำ แต่ต้นน้ำคือการทำให้ทุกคนมีงานทำมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน" นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย 25 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,360,248 บาท และได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 11 ศูนย์ และได้รับมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณจาก กลุ่มชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ที่ ดีเอสไอ ช่วยสืบสวนสอบสวนกรณีการทุจริตในสหกรณ์

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ แถลงกรณีการทุจริตและยักยอกทรัพย์ในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติเห็นชอบให้เป็นคดีพิเศษ จากนั้น วันที่ 22 มี.ค.65 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพักของอดีตผู้บริหารของชุมนุมสหกรณ์ 9 จุด เพื่อหาพยานหลักฐาน และรับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของ สภ. อ่าวลึก มาเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ สอบปากคำ ผู้กล่าวหา และสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และมีหนังสือขอตรวจสอบเอกสารทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องจากธนาคาร เพื่อนำมาประกอบการสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รอการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก เราต้องเร่งสืบสวนให้เสร็จโดยเร็ว

ต่อมา นายสมศักดิ์ ได้ร่วมการไกล่เกลี่ย โดยมีพระครูมหาเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎ์ธานี ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยรุ่นแรก มาช่วยไกล่เกลี่ยด้วย รายแรกเป็นหนี้ กยศ. 167,000 บาท ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ 67,000 บาท รวม 235,000 บาท แต่ส่งมาตลอด 16 ปี 194,865 บาท เหลืออีก 40,000 บาท ซึ่งผลการไกล่เกลี่ย กยศ. ได้ยกหนี้ให้ปิดบัญชี โดยผู้กู้ กล่าวว่า ดีใจมากที่มางานในวันนี้ ขอบคุณนายกฯและรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชน อีกรายเป็นลูกหนี้โตโยต้า ลิสซิ่ง 396,000 บาท ทางโตโยต้า ลดให้ 130,000 บาท จ่ายมาแล้วเหลือยอดชำระ 10,000 บาท และเจ้าตัวจ่ายหมดปิดบัญชี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผลักดันหมอลำขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก

การผลักดันหมอลำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโกเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไ...