วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

"อุ๊งอิ๊ง" ลุยตลาดสายเนตรช่วยหาเสียง ส.ก. อ้อน "คิดถึงพ่อดูหน้าลูกไปก่อน"



"แพทองธาร ชินวัตร" นำทีม ส.ก.เพื่อไทย ลงพื้นที่คันนายาว "คนกรุงฯ" ต้อนรับอบอุ่น พร้อมขอบคุณ ""อดีตนายกฯ ทักษิณ"  และพรรคไทยรักไทย ผลักดัน โครงการ30 บาทรักษาทุกโรค  เปิดโอกาสให้เข้าถึงการรักษา ช่วย หายป่วย-รอดตาย วอนเลือก ส.ก.เพื่อไทย ให้ชนะขาด ผลักดันนโยบายกรุงเทพฯ มั่งคั่งให้เป็นจริง  

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2565 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก. นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคันนายาว เบอร์ 5 และทีมผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดสดสายเนตรและชุมชนเก้าแสนเจ็ด เขตคันนายาว เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ก. เขตบึงกุ่ม ของพรรคเพื่อไทย และท่ามกลางความสนใจของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาทักทาย มอบดอกไม้ให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร ส.ก. ให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง

โดยระหว่างลงพื้นที่นางสาวแพทองธาร ได้พบกับประชาชนที่ได้รับการรักษาจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ได้ขอบคุณอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย ที่ริเริ่มนโยบายนี้ ทำให้ได้รับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง จนหายป่วยและรอดชีวิตมาได้ พร้อมฝากพรรคเพื่อไทยสานต่อนโยบายนี้พร้อมทั้งยกระดับให้เป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น รวมทั้งริเริ่มนโยบายใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้กลับมากินดีอยู่ดีเหมือนในอดีต 

นางสาวแพทองธาร กล่าวระหว่างพบปะผู้สูงอายุโรงเรียนผู้สูงอายุ คุณตา คุณยาย ชุมชนเก้าแสนเจ็ดว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนมาตลอด ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย วันนี้ก็ยังเป็นเป้าหมายเดิม คือ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด


นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่วันนี้อบอุ่นมากๆ พี่น้องประชาชนได้ตอบรับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ได้เข้ามาดูแลประชาชนในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรู้สึกดีใจมากๆ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยได้ผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะดูแลพี่น้องประชาชน   


นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นโยบายต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอมานั้นก็เชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาโรคระบาด ซึ่งจะต้องมีการเตรียมการรับมือ ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมอีก ในอนาคตเราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนเข้าไม่ถึงการรักษา หาเตียงไม่ได้หรือ เข้าไม่ถึงยาอีกไม่ได้ สำหรับผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทย ได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับคนกรุงเทพฯ ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยให้มากที่สุด เพื่อให้เรามีเสียงมากพอในการผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เป็นจริง อีกทั้งไม่ว่าใครจะได้รับการเลือกตั้งมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ทีม ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมที่จะทำงานด้วย 


นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคันนายาว เบอร์ 5 กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยนำเสนอแนวนโยบาย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า’ ด้วย 5 นโยบายหลัก คือ กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาทต่อปี , 50 เขต 50 โรงพยาบาล , 30 บาทถึงที่หมาย , 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ เพื่อนำไปสู่การคืนความมั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ ซึ่งเรามั่นใจว่าหากได้รับการไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เราจะเข้าไปผลักดันนโบยายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเหล่านี้ให้สำเร็จ 


ต่อมาเวลา 08.30น. น.ส.แพทองธาร และคณะเดินทางได้นั่งรถสองแถวต่อมาที่ หมู่บ้านเก้าแสนถนนสวนสยาม เพื่อหาเสียงต่อมีประชาชนในพื้นที่ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมารอให้การต้อนรับ จากนั้นน.ส.แพทองธาร ได้เดินเคาะประตูบ้านเพื่อขอคะแนนให้ผู้สมัคร แต่ละบ้านเปิดประตูให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง มีบางท่านกล่าวทักทายว่า “หน้าเหมือนพ่อ คิดถึงพ่อเหลือเกิน” น.ส.แพทองธาร จึงต้องกลับไปว่า “คิดถึงพ่อให้มองหน้าลูกไปก่อน”จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวกับผู้มาให้การต้อนรับว่า “ขอบคุณที่มารอต้อนรับ ดีใจที่ได้ลงพื้นที่ อยากฝาก ส.ก.ก้อย เบอร์ 5 ไว้ในอ้อมใจ”ก่อนที่ผู้สูงอายุบางคนจะกล่าวกับ น.ส.แพทองธาร ว่าอยากให้เป็นนายกฯ


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าพรรค พท. ได้รับการเลือกตั้งจะผลักดันนโยบายเพื่อประชาชน ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลประชาชนสำคัญสุดพรรค พท. จะผลักดันการช่วยประชาชน โดยเฉพาะนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล เพราะโควิดที่ผ่านมาประชาชนเข้าไม่ถึงการรักษาขาดยาขาดเตียงซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น


เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่หาเสียงได้เห็นการตอบรับประชาชนแล้วคิดว่าจะได้ส.ก.ประมาณกี่คน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวอยากได้มากๆ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชน  เมื่อถามว่าโค้งสุดท้ายคะแนนของพรรคก้าวไกลอาจจะตัดกับพรรค พท. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เบื้องต้นตนสนับสนุนเพื่อไทยให้ส.ก.ของเราได้คะแนนเสียงเยอะๆ เพราะนโยบายที่เราเสนอไปมั่นใจว่าเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ ก็ขอโอกาสให้พรรค พท.


เมื่อถามว่าการลงพื้นที่บ่อยเป็นการซ้อมลงสนามใหญ่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่ ส่วนตัวตั้งใจมาช่วยผู้สมัครส.ก.ไม่ได้หาเสียงให้ตัวเอง เพราะส.ก.ทำงานหนัก ขอให้เป็นผลงานส.ก.ไม่ใช่ผลงานตน”


เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับนักการเมืองที่เป็นผู้หญิง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้ที่สัมภาษณ์อยู่ก็มีผู้หญิงทั้งนั้น ผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำได้และทุกคนก็สามารถเป็นผู้นำได้ด้วยเช่นกัน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น